THE POWER OF CLOTHING / UNIQLO Sustainability

รายงานด้านความยั่งยืนประจำปี 2565

สิบปีกับผู้ลี้ภัย

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้ให้การสนับสนุนผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศผ่านความร่วมมือระดับโลกกับ UNHCR
หน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ตั้งแต่ปี 2554
ในเดือนกรกฎาคมปี 2564 เราได้สัมภาษณ์คุณ Filippo Grandi ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ
เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ผู้คนถูกบังคับให้หลบหนีและความสำคัญของการมีส่วนร่วมของ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง
และนี่คือบทสรุปจากคำตอบของเขา

Ten Years with Refugees

ผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศจำนวนมากที่ถูกบังคับให้หลบหนีออกจากบ้าน เนื่องจากความขัดแย้งและการกดขี่ โดยเค้าเหล่านั้นไม่เพียงต้องการความช่วยเหลือผ่านการบริจาคสิ่งของและเสื้อผ้าเท่านั้น แต่ยังต้องการการสนับสนุนให้พึ่งพาตนเองได้ด้วยเช่นกัน สำหรับ ฟาสต์ รีเทลสิ่ง ได้ร่วมมือกับ UNHCR เพื่อสนับสนุนโครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยในการพึ่งพาตนเอง เช่น การจ้างงานของผู้ลี้ภัยในร้านยูนิโคล่ทั่วโลก โครงการด้านการศึกษาการฝึกอบรมทักษะและการบริจาคเสื้อผ้าให้กับค่ายผู้ลี้ภัย (ภาพซ้ายบน: โคลอมเบีย 2561) นับตั้งแตปี 2563 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้สนับสนุน MADE51 ซึ่งเป็นแบรนด์งานฝีมือระดับโลกที่ผลิตโดยผู้ลี้ภัยมาโดยตลอด (ภาพขวาล่าง:อียิปต์ 2563)

สถานการณ์ของผู้ลี้ภัย :
บทเรียนครั้งสำคัญจากการระบาดครั้งใหญ่ของ โควิด-19

เมื่อปลายปี 2563 มีผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นประมาณ 82.4 ล้านคน ได้แก่ ผู้หลบหนีสงคราม ความขัดแย้ง ความรุนแรง การเลือกปฏิบัติ และการกดขี่ ซึ่งนี่เป็นปีที่เก้าติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้น โดยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้นั้น หมายถึงความขัดแย้งที่ยังไม่ได้รับ การแก้ไขและความขัดแย้งใหม่ที่เกิดขึ้น ลองมองสิ่งที่เกิดขึ้นในเอธิโอเปียเมื่อไม่นานมานี้เป็นตัวอย่าง สงครามซีเรียที่ยาวนานถึง 10 ปี และในอัฟกานิสถาน ความขัดแย้งนั้นมีมานานกว่า 40 ปีแล้ว สิ่งเหล่านี้ถือเป็นสัญญาณที่น่ากังวลอย่างยิ่งของโลก เนื่องด้วยปัญหาในการสร้างสันติภาพ ดังนั้น หากคุณมองที่บริบททางภูมิศาสตร์การเมืองโลก คุณก็จะไม่สามารถมองโลกในแง่ดีเกินไปได้อีก คุณต้องมองตามความเป็นจริง ซึ่งตัวเลขเหล่านี้อาจยังคงเพิ่มขึ้นอีกได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การระบาดครั้งใหญ่ของ โควิด-19 ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและยังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ ได้สอนบทเรียนที่สำคัญมากแก่เรา ความท้าทายระดับโลกเหล่านี้ เช่น โคโรนาไวรัส และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้เพียงลำพังในประเทศใดประเทศหนึ่งและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการปิดพรมแดน หากเราเอาแต่หันหลัง เราก็จะไม่สามารถเผชิญกับความท้าทายที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนตั้งแต่ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี ไปจนถึงผู้คนทั่วไปได้ เราได้เห็นผู้คนมากมายมารวมตัวกันตลอดการแพร่ระบาด เราก็ได้แต่หวังว่านี่จะเป็นเหมือนตัวเร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและความสามัคคีกัน เพราะเมื่อพูดถึงผู้คนที่ถูกบังคับให้หลบหนีแล้วนั้น เราก็อยากให้พวกเขามีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเช่นกัน เราต้องการความสามัคคี เราต้องร่วมกันหาทางแก้ไขต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการส่งพวกเขากลับบ้านหรือไปยังประเทศอื่น และในระหว่างนี้เราก็ต้องช่วยเหลือกันต่อไปด้วยวิธีการที่ยั่งยืน

การสนับสนุนอย่างยั่งยืนสำหรับผู้ที่ถูกบังคับให้หลบหนีออกจากประเทศ

ในปี 2554 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง เป็นบริษัทเอเชียแห่งแรกที่ลงนามในความร่วมมือระดับโลกกับ UNHCR และในปีนี้ เราได้มีการเฉลิมฉลอง ครบรอบปีที่ 10 ของการสนับสนุนอย่างยั่งยืนของเราต่อผู้พลัดถิ่น ตัวผมเองได้เห็นผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศจำนวนมาก ที่ได้รับประโยชน์จากการได้รับเสื้อผ้าที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือนี้ ซึ่งช่วยนำความอบอุ่นและเกียรติมาสู่ผู้คนเหล่านั้น การบริจาคเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงคุณค่าทางด้านมนุษยธรรมได้ในทันที แต่ผมก็จะยังพูดอีกครั้งว่า เรา UNHCR และ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ยังคงให้ความสำคัญกับ "วิธีที่เราจะทำให้ผู้ลี้ภัยสามารถพึ่งพาตนเองมากขึ้น" เราอาศัยอยู่ในโลกที่มีวิกฤตผู้ลี้ภัยยาวนานถึง 10 ปี 20 ปี และมากกว่า 40 ปี ในกรณีของผู้ลี้ภัยชาวอัฟกานิสถาน ซึ่งคุณไม่สามารถจำกัดช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพียงแค่เรื่องแจกจ่ายอาหาร ยารักษาโรค หรือที่พักอาศัยได้เลย คุณต้องให้การตอบสนองต่อวิกฤตอย่างยั่งยืน และนี่คือจุดที่ความหลากหลาย ความแน่นแฟ้นของความร่วมมือที่เรามีกับ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ซึ่งมีความสำคัญมาก ทั้งยังทำหน้าที่เป็นต้นแบบสำหรับพันธมิตรอื่นๆ ในภาคเอกชนที่ดำเนินการในทำนองเดียวกันอีกด้วย และคงจะดีถ้าบริษัทอื่นในญี่ปุ่นและทั่วโลกสามารถจำลองต้นแบบนี้ได้ เพราะจากโอกาสเหล่านี้ ผู้คนที่ถูกบังคับให้หลบหนีก็สามารถสร้างอนาคตที่สดใสให้กับตนเองและชุมชนได้

Filippo Grandi

Filippo Grandi

ได้รับเลือกจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และได้ขึ้นเป็นข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติคนที่ 11 เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2559 เขาเป็นผู้นำ UNHCR หน่วยงานด้านผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ซึ่งดำเนินการอยู่ใน 135 ประเทศ โดยให้การคุ้มครองและช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ผู้คืนถิ่น ผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ รวมทั้งคนไร้สัญชาติกว่ากว่า 82 ล้านคนอีกด้วย คุณ Grandi เป็นชาวอิตาลี และได้มีส่วนร่วมในความร่วมมือระดับนานาชาติมาเป็นเวลา 35 ปี อีกทั้งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาสาขาประวัติศาสตร์สมัยใหม่และปรัชญา ตลอดจนปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยโคเวนทรี

การสนับสนุนจาก ฟาสต์ รีเทลลิ่ง

เสื้อผ้ากว่า 46.19 ล้านชิ้น

เราเก็บรวบรวมเสื้อผ้าที่ลูกค้าไม่ต้องการแล้วและบริจาคให้กับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศ โดยร่วมมือกับ UNHCR และ NPO และ NGO อื่นๆ ทั่วโลกตั้งแต่ปี 2549 จนถึงสิ้นเดือนสิงหาคมในปี 2564 ซึ่งในระหว่างการระบาดครั้งใหญ่นี้ เราได้บริจาคหน้ากากผ้าแอริซึ่ม (AIRism) ให้กับผู้ถูกบังคับให้หลบหนีกว่า 3 ล้านชิ้นเพื่อช่วยป้องกันการแพร่กระจายของ โควิด-19

120 คนใน 8 ประเทศ

ยูนิโคล่ได้ส่งเสริมโอกาสในการจ้างงานสำหรับผู้ที่ถูกบังคับให้หลบหนีออกจากประเทศบ้านเกิดนับตั้งแต่ปี 2554 และปลายเดือนเมษายนปี 2564 มีผู้ผลัดถิ่นจำนวน 120 คนทำงานที่ร้านยูนิโคล่ใน 8 ประเทศภายในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและยุโรป

สร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเองให้กับคน 19,000 คน

และตั้งแต่ปี 2559 ถึง 2562 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ได้บริจาคเงินกว่า 5.5 ล้านดอลลาร์ให้กับ UNHCR เพื่อสนับสนุนโครงการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยให้มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองซึ่งจำนวนเงินเหล่านี้ถูกนำไปช่วยสนับสนุนผู้ลี้ภัยได้ประมาณ 19,000 คน ในห้าประเทศในเอเชีย ผ่านโครงการต่างๆ เช่น การฝึกอบรมการทำงานในด้านทักษะที่จำเป็น และโครงการช่วยเหลือเพื่อสร้างความสามารถในการพึ่งพาตนเอง