ฟาสต์ รีเทลลิ่ง มุ่งมั่นต่อธุรกิจที่จะผลิต ขนส่ง และขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่จําเป็นเท่านั้น โดยทีมงานทุกสาขาทั่วโลกของเรากําลังทํางานเพื่อร่วมเป็นส่วนสําคัญในสังคมที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ในขณะที่ยังคงต้องรักษาการเติบโตของธุรกิจ และเราขอแนะนําแนวคิดริเริ่มใหม่ๆ เกี่ยวกับการปฏิรูปห่วงโซ่อุปทานและความรับผิดชอบหลังการขายเพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานของเราให้มีความยั่งยืนมากขึ้น

เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานของเราให้มีความยั่งยืนมากขึ้น

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปีงบประมาณ 2573
และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

ภายในปีงบประมาณ 2573 ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดําเนินงานของบริษัทให้ได้ถึง 90% จากระดับเดิมในปีงบประมาณ 2562 โดยในห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์จากยูนิโคล่และจียู (GU) ตั้งแต่การผลิตวัตถุดิบ เนื้อผ้า และเสื้อผ้า จะตั้งเป้าการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ 20% และร้านสาขาภายใต้กลุ่มบริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ทั้งหมดและสํานักงานทั่วโลก จะใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% นอกจากนี้ เรายังได้จัดทําแผนลดก๊าซเรือนกระจกนี้ร่วมกับโรงงานซัพพลายเออร์ของเราอีกด้วย อีกทั้ง เรายังจะเพิ่มสัดส่วนของวัสดุรีไซเคิลที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของเราประมาณ 50%

เคารพสิทธิมนุษยชนในทุกกระบวนการผลิต

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จะยังคงเสริมสร้างความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบ ย้อนกลับไปถึงวัตถุดิบ โดยภายในเดือนมีนาคม 2565 เราจะวางแผนที่จะเผยแพร่รายชื่อโรงงานเสื้อผ้าทั้งหมดที่เราใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และนอกจากการตรวจสอบโรงงานเสื้อผ้าและโรงงานทอผ้าโรงงานหลักแล้วนั้น เราก็มุ่งหวังที่จะทําการตรวจสอบย้อนกลับให้ได้ทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่ต้นนํ้าอย่างโรงปั่นด้ายไปจนถึงในระดับวัตถุดิบ ซึ่งจะสามารถทําได้โดยการที่บริษัท ฟาสต์ รีเทลลิ่ง เข้าไปเยี่ยมถึงโรงงาน และตรวจสอบรับรองโดยองค์กรภายนอกอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน เราจะยังคงส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของเราในฐานะที่เป็นหนึ่งในความสําคัญสูงสุดของเรา รวมถึงการเป็นพันธมิตรกับสมาคมแรงงานยุติธรรม (FLA) เพื่อจัดสรรรายได้ที่เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพของพนักงานในห่วงโซ่อุปทานของเราอีกด้วย

เม็ดโพลีเอสเตอร์จากขวดพลาสติกผลิตเป็นเส้นด้าย

เนื้อผ้าจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล

ส่งเสริมสังคมที่ไม่ทิ้งเสื้อผ้า

ฟาสต์ รีเทลลิ่ง เชื่อว่าเราควรรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสื้อผ้าของเราหลังจากที่ถึงมือลูกค้า ปรัชญาของ LifeWear ที่ว่า “การยกระดับชีวิตของทุกคน” เป็นรากฐานที่สําคัญของการสร้างสังคมที่เน้นเรื่องการรีไซเคิล ที่ซึ่งผู้คนจะสวมเสื้อผ้าเป็นเวลานานได้อย่างสบายใจหรือรีไซเคิลเสื้อผ้าแทนที่จะทิ้งไป ในปี 2563 ยูนิโคล่ปรับเปลี่ยนโครงการ “All-Product Recycling Initiative” ซึ่งดําเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 ภายใต้ชื่อใหม่ “RE.UNIQLO” โดยมีเป้าหมายในการนําผลิตภัณฑ์กลับมาใช้อีกครั้งและรีไซเคิลเกือบทั้งหมด ซึ่งไม่เพียงแต่เราจะนําเสื้อผ้ากลับมาใช้ใหม่ แต่เรายังได้เริ่มรีไซเคิลเสื้อผ้าให้กลายเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่อีกด้วย โดยในขั้นแรก เรารวบรวมผลิตภัณฑ์ขนเป็ด (Down) เก่าๆ และดําเนินการผลิตเสื้อดาวน์รีไซเคิล นอกจากนี้ เรายังจะรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ของเราให้เป็นวัสดุอื่นที่ไม่ใช่เสื้อผ้าได้อีกด้วย เช่น เชื้อเพลิงทางเลือกและวัสดุกันเสียงสําหรับรถยนต์ ยิ่งไปกว่านั้น เราจะยังคงคํานึงถึงความต้องการด้านเสื้อผ้าของผู้ลี้ภัยและผู้ประสบภัยต่อไป ซึ่งริเริ่มมาจากทํางานอย่างหนักเป็นเวลา 15 ปีในการค้นหาวิธีที่จะนําเสื้อผ้าที่ใช้แล้วของเรามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งเรารวบรวมเสื้อผ้าที่ร้านยูนิโคล่และจียู (GU) ทั้งหมด และพิจารณาถึงการเพิ่มวิธีการเก็บรวบรวมเพิ่มเติมเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น

นวัตกรรมที่ยืดอายุของเสื้อผ้า

เราเชื่อว่า เพื่อให้ผู้คนได้ใช้เสื้อผ้าของเราเป็นเวลานาน เราจําเป็นต้องสร้างระบบที่ดีขึ้นเพื่อให้ลูกค้าได้ซ่อมแซม ใช้ซํ้า หรือบริจาคได้ง่าย ในขณะที่เรายังคงนําเสนอเสื้อผ้าที่ทนทานต่อไป ด้วยเหตุนี้ ฟาสต์ รีเทลลิ่ง จึงเริ่มต้นร่วมมือกับพันธมิตรภายนอก โดยในเดือนสิงหาคมปี 2564 เราได้เปิดตัว “Second Life Studio” เพื่อทดลองใช้ที่ร้านยูนิโคล่แห่งเดียวในเยอรมนี โดยจะให้บริการซ่อมแซมเสื้อผ้าร่วมกับองค์การนอกภาครัฐ (NGO) ส่วนในด้านของการรีไซเคิลเสื้อผ้าและการพัฒนาวัสดุใหม่ เรากําลังวางแผนที่จะดําเนินการวิจัยและพัฒนาร่วมกับบริษัท โทเรอินดัสตรีส์ (Toray Industries, Inc.) และนอกจากขอบเขตของอุตสาหกรรมแล้ว เราจะยังคงค้นหาพันธมิตรบริษัทที่สามารถทํางานร่วมกับเราเพื่อพัฒนาบริการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเสื้อผ้าต่างๆ ในอนาคต