THE POWER OF CLOTHING / UNIQLO Sustainability

รายงานด้านความยั่งยืนประจำปี 2565

หนทางใหม่จากคนรุ่นใหม่

ในขณะที่ปัญหาทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม
และความไม่เป็นธรรมทางสังคม ผู้นำรุ่นใหม่จึงถือกำเนิดมากขึ้น
มุ่งมั่นที่จะเป็นเจ้าของความท้าทายเหล่านี้ และนำคนรุ่นใหม่ให้เข้ามารู้จักกับการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก
เราได้พูดคุยกับผู้นำรุ่นเยาว์ช่วง Generation Z ทั้งสี่คนเพื่อรับฟังเกี่ยวกับความมุ่งมั่นตั้งใจของพวกเขาที่มีต่ออนาคต

5 คำถาม

  • 1. สามแฮชแท็กใดที่คุณจะใช้อธิบายงานของคุณ
  • 2. ช่วยอธิบายเกี่ยวกับความพยายามด้านสิ่งแวดล้อมของคุณสักเล็กน้อย
  • 3. อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเริ่มลงมือทำเรื่องนี้
  • 4. คุณอยากให้โลกเป็นอย่างไรในปี 2573
  • 5. เราต้องทำอะไรเพื่อเริ่มก้าวแรกสู่อนาคตของโลกของเรา

Generation Next, Finding a Way

Shomy Hasan Chowdhury และ Rijve Arefin

(ทั้งสอง) อายุ 26 ปี, บังกลาเทศ, ผู้ร่วมก่อตั้ง Awareness 360

1. #SDGs #WASH #YouthEmpowerment

2. ตลอดกิจกรรมของเรา เช่น การทำเวิร์กชอปที่ Awareness 360 เราได้ดำเนินการพัฒนาปรับปรุงด้านสุขาฏิบาลและสุขอนามัยของสาธารณะโดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องของน้ำ นอกจากนี้ เรายังเข้าช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในระดับชุมชนท้องถิ่น และในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเพื่อสร้างชีวิตที่มีสุขภาพดี 3. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง เราทั้งคู่มีเหตุผลส่วนตัวที่ชัดเจนในความมุ่งมั่นตั้งใจของเราต่อกิจกรรมเหล่านี้ สำหรับ Shomy นั้น เธอได้สูญเสียแม่ไปอย่างกะทันหันจากอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง ทำให้เธอลงมือปฏิบัติและส่งเสริมการสุขาภิบาลในน้ำ ส่วนสำหรับ Rijve ความยากลำบากที่เขาได้เผชิญในวัยเด็กเป็นแรงบันดาลใจให้เขาลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของเด็กและสนับสนุนเยาวชน 4. คนรุ่นเรานับว่าเป็นรุ่นสุดท้ายที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตได้ใน 10 ปี เราต้องการโลกที่ยั่งยืน สงบสุข เท่าเทียมกันและสมบูรณ์แข็งแรง 5. เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบในคราวเดียว แต่สิ่งสำคัญคือในแต่ละการเปลี่ยนแปลงต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยตระหนักถึงบทบาทของเราทุกคนและตัดสินใจเลือกวิถีชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นในทุกวัน ซึ่งจะนำไปสู่โลกที่น่าอยู่ขึ้นได้ (ข้อความนี้เขียนขึ้นตามการตอบกลับของคุณ Arefin)



Abby Fuirst

อายุ 23 ปี, สหรัฐอเมริกา, ผู้จัดองค์กรชุมชนของ OVERDUE

1. #trashpickup #leavenotrace #community

2. เป้าหมายของ OVERDUE คือการพัฒนาเครือข่ายของผู้คนที่มารวมตัวกันเพื่อทำให้ชุมชนของเราสะอาดขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นด้วยการเก็บขยะร่วมกัน เราเชื่อว่าการทำความสะอาดร่วมกันที่สนุกสนานนี้ช่วยให้ละแวกชุมชนของเราสะอาด ในขณะเดียวกันก็ช่วยยกระดับสุขภาพจิตของอาสาสมัครไปด้วย โดยให้ความช่วยเหลือในเชิงบวกและสร้างสถานที่ที่จะทำให้พวกเขาเจริญเติบโตได้ นอกจากนี้ OVERDUE ยังสนับสนุนผู้นำทุกวัยที่ให้ความสำคัญกับความสะอาดในละแวกชุมชนอีกด้วย 3. ฉันอยากให้คนรุ่นใหม่ได้มีประสบการณ์ในแบบเดียวกับที่ฉันเคยมีตอนเด็กๆ ที่ได้เติบโตขึ้นมาในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและได้เล่นสนุกอยู่กลางแจ้ง และขณะที่ฉันทำงานเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้นอยู่ในลอสแอนเจลิส ฉันก็ได้พบกับ OVERDUE ฉันต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการบริโภคเกินจำเป็นที่มีต่อโลกของเรา ซึ่งแนวคิดนี้กระตุ้นให้ฉันอาสาไปเก็บขยะในชุมชนร่วมกับ OVERDUE 4. คนรุ่นต่อไปไม่ควรต้องมากังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ ภาวะขาดแคลนอาหาร การสูญพันธุ์ของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โรคระบาดที่แพร่กระจาย หรือความยากจน แต่น่าเสียดายที่สถานการณ์เช่นนี้จะเลวร้ายลงหากเราไม่เข้าไปดำเนินการให้เร็วและสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกให้กับโลก 5. ด้วยเหตุนี้ เราสามารถเริ่มต้นด้วยการลดการบริโภคของเรา และนำกลับมาใช้ใหม่อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อช่วยลดปริมาณของเสียที่เราผลิต

Abby Fuirst

Helly Tong

อายุ 26 ปี, เวียดนาม, ผู้ก่อตั้ง The Yên Concept และ Lai Day Refill Station

1. #sustainable #socialimpact #greenvision

2 "ฉันต้องการเป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นไปกับการแก้ปัญหาที่ดีขึ้นและยั่งยืนมากขึ้น" ทุกสิ่งที่ฉันทำมาจนดึงตอนนี้ล้วนมาจากความปรารถนานั้น The Yen Concept ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์จากพืชสีเขียวเป็นหลักในขณะที่ Lai Day Refill Station ขึ้นชื่อในด้านบริการแบบเติมตามสโลแกน "Li day, lai dy" ซึ่งแปลว่า "เติม"ในภาษาเวียดนามซึ่งสนับสนุนกิจกรรมในเรื่องของบำไม้และชุมชนท้องถิ่น 3. ครั้งหนึ่งฉันเคยสงสัยในตัวเองและเคยเชื่อว่าเส้นทางสู่ความฝันของฉันนั้นต็มไปด้วยความท้าทายและข้อจำกัดมากมายที่รออยู่ข้างหน้าแต่เมื่อฉันลองคิดทบทวนถึงสิ่งดีๆ ที่ฉันเคยได้รับระหว่างทางทั้งหมดนั้น ฉันก็ค่อยๆ เริ่มเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ อาจสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต้นแบบของธุรกิจก็ถูกสร้างขึ้นตามแรงบันดาลใจจากความรักที่ฉันมีต่อสิ่งแวดล้อมและธรรมชาตินั่นเอง 4. สิ่งที่ฉันสามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับโลกในปี 2573 ก็คือโลกที่ไร้ขอบเขต โลกที่มีความหลากหลายและโลกที่ทุกคนอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ ผู้คนส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ 5. ชุมชนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ความเห็นอกเห็นใจและการเริ่มต้นใหม่คือกุญแจสำคัญในการเริ่มก้าวแรกสู่อนาคตของโลกของเรา

Abby Fuirst