Life and Crafts

สไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเวิร์คแวร์ของ Uniqlo U สีเอิร์ธโทนอย่างเบจและน้ำตาลในสตูดิโอของ David ให้ความรู้สึกอบอุ่นเข้ากันได้ดี

โต๊ะทำงานที่มีแสงแดดส่องถึงคือที่ทำงานของ David เขากำลังตัดพื้นกระเบื้องยางด้วยสิ่วในมือ โดยเริ่มตั้งแต่โครงร่างไปจนถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุด

ความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบระหว่างโลกอนาล็อกและดิจิทัล

ในการตีความใหม่แบบร่วมสมัยของภาพพิมพ์แกะไม้คลาสสิก ศิลปินอย่าง David Schmitt เน้นที่ความงามเล็กๆ น้อยๆ ที่หาได้ในชีวิตประจำวัน ผลงานของเขาสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น จนได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ บนโซเชียลมีเดียมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนไปเยี่ยมชมสตูดิโอในบาร์เซโลนา David เงยหน้าขึ้นจากภาพพิมพ์แกะไม้ที่กำลังทำอยู่เพื่อใช้เป็นหน้าปกของฉบับนี้ เขายิ้มทักทายเรา "ยินดีต้อนรับครับ" ภาพพิมพ์ส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับ Pablo Picasso ซึ่งเป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีความเชื่อมโยงกับบาร์เซโลนา เพราะเขาทำภาพพิมพ์แกะยางในช่วงบั้นปลายชีวิต

David เลือกใช้รูปวัตถุที่คนทั่วไปคุ้นเคย เช่น คน สัตว์ และดอกไม้ โดยรูปแบบและสีสันสไตล์มินิมอลของเขาเข้ากันได้ดีกับข้อความภาษาอังกฤษที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง โลกของเขากระตุ้นจินตนาการอันละเอียดอ่อนและความปรารถนาที่อยู่เหนือกาลเวลา "ธีมงานของผมเกี่ยวข้องกับความหมายของการมีชีวิตอยู่ สิ่งต่างๆ ที่เราต้องต่อสู้ดิ้นรนอยู่เสมอในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ตอนแรกอาจดูเรียบง่ายหรือเป็นสากล แต่ผมชอบคิดว่ามันมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น" David อธิบายภาพหน้าปกที่เขาทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับฉบับนี้ว่าเป็น "การกลั่นกรองสไตล์งานของตัวเองในตอนนี้" ตั้งแต่ภาพนกและผู้คนที่กำลังฟังเพลงไปจนถึงเสื้อผ้าที่ทำให้มีรูปร่างคล้ายพืช ผลงานที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวานี้มีรากฐานมาจากชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะขึ้นชื่อเรื่องการใช้โทนสีดำและสีเบจ แต่ผลงานพิมพ์นี้ใช้สีน้ำเงินเข้มและสีขาว ทำให้ดูทันสมัยขึ้น

David สร้างภาพพิมพ์ด้วยมือประมาณ 10 ชิ้นสำหรับผลงานแต่ละชิ้นของเขา ความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ ของลายพิมพ์เป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผลงานได้ชัดเจน

David เรียกการใช้สีเขียวของชุดนี้ว่า "สดชื่น" โดยเพิ่มสไตล์ด้วยหมวกแก๊ป ซึ่งเป็นลุคปกติของเขา

David ย้ายมาอยู่ที่บาร์เซโลนาเมื่อสองปีก่อน เขาหลงรักในชุมชนที่พลุกพล่านและบรรยากาศแบบโบฮีเมียนของเมืองนี้ เขาสร้างสตูดิโอที่มีเพดานสูง มีแสงสาดส่องเข้ามาตลอดทั้งวัน และทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ "ผมพยายามเข้าถึงงานศิลปะด้วยความอยากรู้อยากเห็นแบบเด็กๆ
โดยเน้นไปที่สมดุลระหว่างแนวคิดและสุนทรียศาสตร์ ผมพิถีพิถันกับวัสดุและวิธีการ และต้องการสร้างผลงานด้วยมุมมองที่หลากหลาย ช่วงหลังๆ มานี้กำลังสนุกกับการทดลองใช้เซรามิก"

ในฐานะจิตรกรและช่างพิมพ์ที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง เขาไม่รู้สึกถูกจำกัดด้วยขนบทางศิลปะ ตัวอย่างเช่น กระบวนการที่มีความเฉพาะตัวของเขา ซึ่งผสมผสานระหว่างอะนาล็อกกับดิจิทัลเข้าด้วยกัน "ผมวาดดีไซน์ด้วยดิจิทัล พิมพ์ออกมา และวางลงบนพื้นกระเบื้องยาง จากนั้นก็แกะสลักอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงสแกนภาพพิมพ์ที่ทำมือเพื่อให้ผมแก้สีและพื้นผิวได้ด้วยดิจิทัล" เดวิดอธิบาย การใช้เครื่องมือต่างๆ ตามความจำเป็นช่วยให้เขาทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดแนวคิดที่มีมากมายได้มากขึ้น

"ข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ในการทำงานแบบอะนาล็อก สามารถเชื่อมโยงกับผู้คนได้มากกว่าความแม่นยำในแบบดิจิทัล ความไม่สมบูรณ์แบบถือเป็นเรื่องปกติของมนุษย์และเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสวยงาม" ศิลปะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ผลงานของ David สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์และย้ำเตือนเราถึงความหวังเล็กๆ ของวิถีชีวิตที่มักจะถูกลืมอย่างง่ายดาย

ผนังประดับด้วยลายพิมพ์ที่ David ทำขึ้นในช่วงสามปีที่ผ่านมา วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ผ้ากระสอบและทราย ช่วยให้เขาได้พื้นผิวที่เหมาะสม

"ฉันมักจะสวมเสื้อผ้าผู้ชายอยู่บ่อยครั้ง" Carina ในชุดสีดำสุดเก๋จาก Uniqlo U กล่าว

"ตอนยังเด็ก ฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่มีพ่อเป็นคนญี่ปุ่น ทำให้ได้มีโอกาสเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมนั้น" ซึ่งปรัชญา Mingei ศิลปะของชาวบ้านที่ได้รับอิทธิพลจากเซรามิกของญี่ปุ่น เป็นหัวใจสำคัญของผลงานของเธอ

ส่วนที่ไม่สมดุลคือส่วนที่มีพลังที่สุด

Carina Seth Andersson เป็นนักออกแบบช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญด้านงานแก้ว เธอเป็นที่รู้จักในวงการออกแบบของสวีเดน ที่ทำงานของเธอเคยเป็นโรงงานเก่าของ Gustavsberg ผู้ผลิตเซรามิกที่มีประวัติมายาวนานกว่าสองศตวรรษ เธอใช้เวลาช่วงเช้าทำเซรามิกและช่วงบ่ายวาดภาพร่างสามมิติจากกระดาษ ในขณะเดียวกัน เธอก็ทำงานศิลปะในโรงงานแก้วที่อยู่ชั้นล่างของสตูดิโอ โดยสร้างแก้วเป่าด้วยมือร่วมกับช่างฝีมือ "เพราะฉันเข้าใจสิ่งต่างๆ ด้วยสัดส่วน รูปร่าง และขนาด ฉันมักจะมีภาพในจินตนาการที่ฉันอยากทำที่ชัดเจนมาก" เธอกล่าว แทนที่จะวาดภาพออกมา เธอจะปรับแต่งรูปทรงด้วยการตัดกระดาษเป็นรูปทรงต่างๆ ซึ่งเป็นเทคนิคแบบอะนาล็อกที่ทำให้ไอเดียของเธอจับต้องได้

งานแก้วและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารของ Carina มีรูปทรงและสีสันที่สะอาดตาและเหนือกาลเวลา สะท้อนแนวคิดความงามที่ใช้ได้จริง การลดทอนที่เรียบง่ายผสมกับความงดงาม ทำให้ผลงานของเธอคงอบอวลด้วยความอบอุ่นจากงานแฮนด์เมดในทุกชิ้น "แม้แต่การออกแบบที่แม่นยำตามขนบที่สุดก็ต้องมีอะไรบางอย่างที่โดดเด่น สิ่งที่ไม่สมดุล การพยายามที่จะขจัดความไม่สมบูรณ์แบบออกไปทั้งหมดไม่ใช่เรื่องดี เพราะส่วนเหล่านั้นคือสิ่งที่มีพลังที่สุด"

ปรัชญาของเธอที่ให้ความสำคัญกับ "ความแตกต่างเล็กๆ น้อยๆ" มากกว่าความสมบูรณ์แบบที่เข้มงวดสะท้อนออกมาในบุคลิกของเธอ ภายใต้ผลงานแบบมินิมอลคือความไร้เดียงสาอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเวลาเธอเล่นกับ Ru สุนัขของเธอ หรือเวลาใช้ชายเสื้อแจ็คเก็ตเช็ดชาที่หก Carina มีบุคลิกที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ เช่นเดียวกับผลงานของเธอ

Carina บอกว่าเธอชอบเสื้อผ้าที่ทั้งดูสง่าและสวมใส่สบาย "ไอเทมเรียบง่ายของ Uniqlo U คือสไตล์เวิร์คแวร์ที่ฉันใส่เวลาทำงาน"

ที่สตูดิโอ Carina ร่างภาพบนกระดาษและกรีดดินเหนียว เธอมักจะผสมผสานงานออกแบบผลิตภัณฑ์และงานศิลปะเข้าด้วยกัน

Carina เคยร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำมากมายในแถบนอร์ดิก เธอร่วมงานกับ Marimekko และ Svenskt Tenn มายาวนาน ได้ออกแบบแจกันและสิ่งทอ ที่กลายมาเป็นไอเทมมาตรฐานของแต่ละแบรนด์ Skrufs เป็นผู้ผลิตสินค้าแก้วชั้นนำในสวีเดน ซึ่งเป็นโรงงานแก้วที่ตั้งอยู่ใน Småland ทางตอนใต้ของสวีเดน นี่เป็นสถานที่ผลิตแจกันของ Svenskt Tenn ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1897 และยังคงผลิตแก้วเป่าด้วยมือตามแบบดั้งเดิม สิ่งที่ทำให้ Carina สนุกกับการออกแบบเอง คือความเคารพที่เธอมีต่อกระบวนการสร้างสรรค์ของใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เบื้องหลังผลงานเหล่านั้น

"หากต้องการสร้างอะไรที่คลาสสิก อยู่เหนือกาลเวลา คุณต้องให้เวลามัน ไม่ใช่แค่ใช้วัสดุที่ยั่งยืนเท่านั้น แต่ต้องออกแบบให้ยั่งยืนด้วย สิ่งของที่ทำด้วยความเอาใจใส่จะกลายเป็นของรักที่อยู่ได้นาน ส่วนอะไรที่ผลิตอย่างเร่งรีบ ก็มักจะมีอายุสั้นและจะถูกลืมอย่างรวดเร็ว

นั่นคือเหตุผลที่ Carina ทุ่มเทให้กับงานของเธออย่างเต็มที่ และเลือกที่จะทำด้วยมือ ผลลัพธ์ที่ได้คือเครื่องแก้วและเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คน และแสดงให้เห็นถึงความงามที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา