แบรนด์เสื้อผ้าขวัญใจชาวสแกนดิเนเวีย

Nikolina Johnston ผู้ที่เป็นหัวเรือใหญ่ของยูนิโคล่สาขาแรกในกรุงสตอกโฮล์ม
ซึ่งเคยเป็นนักฟุตบอลตำแหน่งปีกขวามาก่อน

THE POWER OF

CLOTHING

ตุลาคม 2023 ฉบับที่ 25

ฉันจะทำอย่างไรให้ประเทศสวีเดนสนับสนุนและยอมรับแบรนด์ยูนิโคล่

ยูนิโคล่ได้เปิดร้านสาขาแห่งแรกที่ในกรุงสตอกโฮล์มในปี 2018 ซึ่งแนวคิดในการเปิดร้านสาขาที่ประเทศสวีเดนนี้ถูกนำเสนอขึ้นในที่ประชุมของบริษัทโดย Nikolina Johnston ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ UNIQLO Scandinavia ณ ปัจจุบัน เธอมีมุมมองว่ายูนิโคล่นั้นเป็นแบรนด์เสื้อผ้าขวัญใจของชาวสแกนดิเนเวียอยู่แล้ว เพราะมีทัศนคติที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าและความโปร่งใสในด้านการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม

Portrait photographs by Thomas Degner

ร้านสาขาที่ Kungsträdgården ตั้งอยู่ภายในอาคารที่มีอายุกว่าครึ่งศตวรรษซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่

คุณตาของฉันเกิดในประเทศฟินแลนด์ แต่พอเขาได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่นิวยอร์กหลังจากที่ได้เริ่มทำงานกับสหประชาชาติ ลูกสาวของเขาและแม่ของฉันได้แต่งงานกับชาวอเมริกัน ส่วนตัวฉันเกิดและเติบโตขึ้นในประเทศสวีเดน มรดกทางวัฒนธรรมส่วนใหญ่ของฉันเป็นวัฒนธรรมนอร์ดิก แต่ฉันเองก็ได้รับอิทธิพลแบบอเมริกันมามาก และการมีประสบการณ์ในฐานะผู้จัดการร้านสาขาแฟล็กชิประดับโลกที่กรุงปารีสก็ทำให้ฉันได้พบเจอกับผู้คนและวัฒนธรรมที่หลากหลาย การได้สัมผัสกับแนวความคิดที่หลากหลายนั้นมีประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงานอย่างมาก เพราะมันทำให้เกิดช่วงเวลาที่ทำให้คุณได้รู้ว่า สิ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็นสามัญสำนึกนั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าสิ่งสมมติเลย

การเปิดร้านสาขาของยูนิโคล่แห่งแรกในประเทศสวีเดน

มรดกทางวัฒนธรรมส่วนใหญ่ของฉันเป็นวัฒนธรรมนอร์ดิก แต่ฉันเองก็ได้รับอิทธิพลแบบอเมริกันมามาก และการมีประสบการณ์ในฐานะผู้จัดการร้านสาขาแฟล็กชิประดับโลกที่กรุงปารีสก็ทำให้ฉันได้พบเจอกับผู้คนและวัฒนธรรมที่หลากหลาย การได้สัมผัสกับแนวความคิดที่หลากหลายนั้นมีประโยชน์ต่อชีวิตและการทำงานอย่างมาก เพราะมันทำให้เกิดช่วงเวลาที่ทำให้คุณได้รู้ว่า สิ่งที่ตัวเองคิดว่าเป็นสามัญสำนึกนั้นไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าสิ่งสมมติเลย

การเปิดร้านสาขาของยูนิโคล่แห่งแรกในประเทศสวีเดน

ฉันได้เสนอให้เปิดร้านสาขาในประเทศสวีเดนเพราะมั่นใจว่าเสื้อผ้าของยูนิโคล่คือสิ่งที่ชาวสวีเดนต้องการ ซึ่งแน่นอนว่าการพิจารณาเรื่องวัสดุและตรวจสอบป้ายข้อมูลด้านในก่อนซื้อสินค้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญในประเทศสวีเดนด้วย เพราะคุณภาพที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ ฉันรู้เลยว่าเราต้องประสบความสำเร็จอย่างมากในการส่งสารข้อความจากยูนิโคล่และนำเสนอหลักปรัชญา LifeWear

ร้านสาขาแห่งแรกนี้ตั้งอยู่ข้าง Kungsträdgården ภายในอาคารหลังเก่าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ซึ่งออกแบบขึ้นในปี 1969 โดย Sven Markelius นักวางผังเมืองซึ่งเป็นสถาปนิกสไตล์สมัยใหม่ผู้ทรงอิทธิพลชาวสวีเดน Markelius ยังเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการออกแบบให้กับอาคารสำนักเลขาธิการสหประชาชาติในนิวยอร์กร่วมกับ Le Corbusier และ Oscar Niemeyer ด้วย การออกแบบภายในที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานของเขามีความเป็นสากลแบบโมเดิร์นที่สะท้อนให้เห็นถึงแก่นแท้ของ LifeWear ได้อย่างโดดเด่น

ในวันก่อนเปิดร้าน ฉันได้ร่วมฉลองกับแม่แล้วก็พี่น้องของฉัน แม่ของฉันดีใจมากที่ฉันได้เดินทางกลับมาที่สวีเดน แล้วเธอก็รู้สึกทึ่งกับความสวยงามภายในร้านด้วยถึงขนาดเดินไปหา Yanai แล้วก็กอดเขาเลย โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็น้อมรับและพูดกับแม่ว่า “มาถ่ายรูปด้วยกันเถอะครับ!” ตอนนี้คุณตาเลยใช้รูปที่ถ่ายในวันนั้นเป็นภาพแบ็คกราวด์ในมือถือ

หลังจากเปิดร้านได้ไม่นานก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น สวีเดนเป็นประเทศที่ฤดูหนาวมีอากาศเย็นจัด ฉันก็เลยคิดว่าฮีทเทคน่าจะเป็นไอเทมที่ขายดีจนหมดเกลี้ยง แต่จริงๆ แล้วกลับไม่เป็นแบบนั้น เพราะปกติแล้วที่สวีเดนจะมีระบบทำความร้อนภายในบ้าน อาคารใหญ่ๆ และระบบขนส่งมวลชน ผู้คนส่วนใหญ่จึงไม่ได้ต้องการเสื้อตัวในที่กักเก็บความร้อนขนาดนั้น จะมีก็แต่เลกกิ้งฮีทเทคที่เป็นข้อยกเว้นเพราะสามารถสวมใส่ไปข้างนอกได้ พอได้เจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์นี้เข้า ฉันก็เลยต้องมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ความล้มเหลวเป็นแรงผลักดันที่ดีมาก

หนทางใหม่ในการให้ความสำคัญกับลูกค้า

หนึ่งปีหลังจากที่ร้านสาขาแห่งแรกของยูนิโคล่ในกรุงสตอกโฮล์มเปิดให้บริการ ยูนิโคล่ได้มีความร่วมมือกับทีมโอลิมปิกและพาราลิมปิกของสวีเดน เราต้องออกภาคสนามหลายต่อหลายครั้งเพื่อให้นักกีฬาได้ลองสวมใส่ชุดเพื่อสร้างสรรค์ชุดยูนิฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้งานและมีคุณภาพระดับสูง

แต่การดีไซน์ในระดับพาณิชย์ต้องใช้ความพิถีพิถันมากขึ้นโดยอ้างอิงจากประสบการณ์และเสียงตอบรับจากลูกค้า กระบวนการนี้จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นหลัก และแน่นอนว่าในปีหน้า นักกีฬาทีมชาติสวีเดนจะมีโอกาสได้สวมใส่ชุดยูนิฟอร์มอย่างเป็นทางการจากยูนิโคล่ในการแข่งขันอีกครั้ง ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ

เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ต้องตอบโจทย์ได้ครบทุกบทบาท เพราะความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ความคล่องตัวหรือคุณสมบัติเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องการให้สัมผัสที่อบอุ่น รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงอีกด้วย LifeWear ของยูนิโคล่แสดงให้เห็นถึงเป้าหมายพื้นฐานของเสื้อผ้า เป้าหมายของเราไม่ใช่การวิ่งไล่ตามเทรนด์แฟชั่นที่เป็นกระแสได้แค่ปีเดียวเท่านั้น แต่เราพยายามมองหาสไตล์ที่สามารถคงอยู่ได้อย่างยาวนาน และเป็นเสื้อผ้าที่คุณอยากจะสวมใส่ไปอีกสิบปีหลังจากนี้

RE.UNIQLO STUDIO ใช้เทคนิคการปักลายแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า "ซาชิโกะ"

และเมื่อ RE.UNIQLO STUDIO เปิดตัวในประเทศสวีเดนที่ร้านสาขาของเราในกรุงสตอกโฮล์ม เสื้อผ้าของลูกค้าจะได้รับการซ่อมแซมหรือแต่งเติมความสวยงามด้วยมือเหมือนกับที่ผู้คนในรุ่นปู่ย่าทำกันที่บ้าน ซึ่งเป็นการนำสิ่งเก่าและสิ่งใหม่มาผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

เป้าหมายของ RE.UNIQLO STUDIO คือการช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถสวมใส่เสื้อผ้าตัวโปรดได้ยาวนานที่สุด เราจึงให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าโดยยังคงอนุรักษ์ทรัพยากรและช่วยให้พวกเขาสามารถใช้งานเสื้อผ้าได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจะเป็นการลดภาระต่อสิ่งแวดล้อมลงได้ด้วย

LifeWear: อุตสาหกรรมรูปแบบใหม่

เราจะผลิตเสื้อผ้าที่มองไกลไปในอนาคตได้อย่างไร

เลื่อน

มีความโปร่งใสเพื่อความอุ่นใจ

การเก็บรวบรวมเสื้อผ้าที่รับบริจาคคืออีกหนึ่งหนทางที่ช่วยสร้างความมั่นใจได้ว่าเสื้อผ้าตัวโปรดของคุณจะถูกสวมใส่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น โดยเสื้อผ้าเหล่านี้จะถูกส่งไปให้กับผู้ลี้ภัยทั่วทุกมุมโลกหรือนำไปรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าชิ้นใหม่ เสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ขนเป็ดจะได้รับการชุบชีวิตอีกครั้งด้วยเทคโนโลยีใหม่ให้เป็นเสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ขนเป็ดรีไซเคิล การนำเสื้อผ้าหรือวัตถุดิบต่างๆ มาหมุนเวียนด้วยวิธีการที่หลากหลายคือหนึ่งในหัวใจหลักของ LifeWear

เรายังคงเดินหน้าเพื่อลดปริมาณ CO₂ การสิ้นเปลืองน้ำ และการปล่อยของเสียทั้งในโรงงานและร้านสาขาของเราที่ใช้จำหน่ายเสื้อผ้าด้วย สิ่งที่น่าสนใจก็คือการที่จะทำแบบนี้ได้ต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไรและใช้ได้ผลแค่ไหน เรามีความเชื่อมั่นในเรื่องการแสดงข้อมูลที่ชัดเจนโปร่งใสในเรื่องนี้ เพราะความโปร่งใสคือสิ่งที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับองค์กร ฉันคิดว่าเราจะมีลูกค้าที่สวมใส่เสื้อผ้าของเราได้อย่างมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเรากำหนดแนวทางในเรื่องสิ่งแวดล้อมเอาไว้อย่างชัดเจน

การช่วยเหลือทีมให้บรรลุเป้าหมายในฐานะปีกขวา

ฉันคลั่งไคล้เรื่องฟุตบอลตั้งแต่ยังเด็ก เพราะฉันอยากจะเป็นเหมือนคุณแม่ที่เป็นสุดยอดนักฟุตบอลเมื่อสมัยที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ฉันเล่นในตำแหน่งปีกขวาและมีความโดดเด่นในการวิ่งขึ้นมาช่วยทำประตูจากด้านขวามากๆ และในท้ายที่สุดฉันก็ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม ฉันเลยมีทักษะในการกำกับและให้คำแนะนำเพื่อนร่วมทีมเพื่อดึงศักยภาพของพวกเขาออกมาได้อย่างเต็มที่โดยธรรมชาติ ถึงจะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปถึงระดับอาชีพ แต่ก็ไม่เป็นไร

ที่ยูนิโคล่ในประเทศสวีเดน เราจะจัดอีเวนต์ขึ้นสำหรับเด็กๆ ทั่วประเทศในชื่อโครงการ “UNIQLO DREAM PROJECT” ภายใต้ร่วมมือกับคณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกแห่งประเทศสวีเดน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือให้เด็กๆ ได้สนุกสนานกับการเล่นกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย โดยจะมีนักกีฬาชื่อดังของสวีเดนมาร่วมงานกับเราในฐานะแขกรับเชิญพิเศษด้วย เราทราบดีว่าความยากลำบากในด้านเศรษฐกิจจะปิดกั้นโอกาสในการเข้าถึงโครงการด้านกีฬาสำหรับบางครอบครัวได้ เราจึงทำให้กีฬาที่ต้องการอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอย่างเช่นฮอกกี้น้ำแข็งหรือสกีสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น จนถึงวันนี้ เรามีเด็ก 42,200 คนจาก 600 โรงเรียนทั่วประเทศมาเข้าร่วมในโครงการ UNIQLO DREAM PROJECT แล้ว

การผลิตเสื้อผ้าโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โครงการที่ช่วยให้ใช้ประโยชน์จากเสื้อผ้าได้เต็มที่ และการมอบโอกาสให้เด็กๆ ได้สนุกสนานกับกีฬา ทั้งหมดที่เราทำในตอนนี้จะช่วยเสริมสร้างอนาคตให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ฉันพร้อมที่จะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อทำให้ยูนิโคล่กลายเป็นแบรนด์ขวัญใจของผู้คนในกลุ่มประเทศนอร์ดิก

งานแข่งขันกีฬาที่มีนักกีฬาชื่อดังเป็นแขกรับเชิญถูกจัดขึ้นทั่วทั้งประเทศสวีเดน

Nikolina Johnston

เกิดที่เมือง Uppsala ประเทศสวีเดน 2014: เข้าร่วมบริษัทในฐานะ UNIQLO Manager Candidate (UMC) 2016: เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการร้านสาขา UNIQLO Paris Opéra 2020: ได้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ UNIQLO Scandinavia

ดีไซน์ล้ำหน้าที่กลมเกลียวเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งแวดล้อม

ร้านค้าแห่งนี้มีชื่อเล่นว่า “ร้านโลโก้ยูนิโคล่” เพราะมีโลโก้ขนาดใหญ่อยู่ด้านนอก ส่วนร้านสาขาที่ Maebashi Minami IC ในจังหวัดกุนมะก็มีทั้งพื้นที่เล่นสำหรับเด็ก ร้านดอกไม้ คาเฟ่ และเคาน์เตอร์สำหรับนำไอเทมของยูนิโคล่มาซ่อมแซมหรือทำใหม่ด้วย การทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ ทั้งแผงโซลาร์เซลล์ ม่านอากาศ เซ็นเซอร์วัดปริมาณ CO₂ และอุณหภูมิ ช่องรับแสง และฉนวนรีไซเคิล ทำให้เราลดการบริโภคพลังงานลงได้ถึง 55% เมื่อเทียบกับร้านสาขาริมถนนของยูนิโคล่แห่งอื่นที่มีอยู่*

* เปรียบเทียบกับการใช้พลังงานรายปีของ UNIQLO Tomioka ในจังหวัดกุนมะซึ่งเป็นร้านสาขาที่มีผังร้านและพื้นที่ภายในร้านใกล้เคียงกัน

Illustrations by Yoshifumi Takeda

พื้นที่อันสวยงามที่สอดผสานกับสิ่งแวดล้อม

Hatsuko Takagi

ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายพัฒนาร้านสาขา บริษัทฟาสต์ รีเทลลิ่ง

ร้านสาขา UNIQLO Maebashi Minami IC เป็นที่รู้จักในชื่อ “ร้านโลโก้ยูนิโคล่” เพราะมีบล็อคโลโก้สีแดงอยู่ที่ทั้งสามมุม ที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ที่ให้ผู้คนเข้ามาซื้อของแล้วตรงดิ่งไปที่ทางออกเท่านั้น แต่เราต้องการให้เป็นร้านค้าที่มีความน่าสนใจซึ่งทุกคนสามารถสนุกสนานกับกิจกรรมได้หลากหลายประเภทด้วย พอคิดถึงความเป็นไปได้หลายๆ อย่างแล้ว เราก็ได้ไอเดียของร้านโลโก้นี้ขึ้นมา

หากวันไหนมีสภาพอากาศดี คุณก็สามารถนั่งเล่นในสวนขนาดใหญ่ข้างนอก หรือพูดคุยกับเพื่อนพร้อมดื่มกาแฟกับอาหารประจำถิ่นในคาเฟ่ได้ ส่วนเด็กๆ ก็สามารถเล่นกระดานลื่นในบริเวณสวนสนุกหรือนั่งดูหนังสือภาพก็ได้ และยังมีร้านดอกไม้ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศประจำฤดูกาลด้วย นอกจากนี้ เรายังมี RE.UNIQLO STUDIO ให้ลูกค้าสามารถนำเสื้อผ้าของยูนิโคล่มาซ่อมแซมหรือแต่งเติมความสวยงามด้วยมือได้เช่นกัน

ดีไซน์ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมนี้ช่วยให้เราลดการใช้พลังงานสำหรับแสงสว่างและระบบปรับอากาศ ซึ่งเป็นสองระบบหลักที่ใช้พลังงานสูงสุดในร้านสาขาได้ จากที่เราคำนวณในขั้นตอนการออกแบบ โครงสร้างนี้สามารถลดการใช้พลังงานให้เราได้ถึง 55%* เราใช้เวลาในการพูดคุยเรื่องรายละเอียดต่างๆ กับ Takenaka Corporation ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการออกแบบนานมาก อาคารที่สร้างขึ้นมานี้จึงมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ หลายอย่าง และจะเป็นแม่แบบให้กับร้านสาขาของยูนิโคล่ในรุ่นต่อไปด้วย

สิ่งที่มองเห็นได้จากผู้จัดการสาวสวยคนนี้คือ เธอมีเป้าหมายอย่างชัดเจนในเรื่องการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และเนื่องจากเธอเคยทำหน้าที่เป็นผู้จัดการร้านสาขาที่จังหวัดกุนมะมาก่อน เธอจึงรู้ดีว่าจะทำให้ชุมชนท้องถิ่นพึงพอใจและยกระดับประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับได้อย่างไร เราคิดว่าคุณจะต้องชื่นชอบร้านสาขาแห่งนี้อย่างแน่นอน เพราะเต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันที่แสดงถึงท้องถิ่นนี้

ดีไซน์เสื้อผ้าโดยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติและการใช้งานเป็นหลัก

Ikuya Hanaoka

หัวหน้าสถาปนิก ฝ่ายการออกแบบขั้นสูง แผนกออกแบบ Takenaka Corporation สำนักงานใหญ่ประจำกรุงโตเกียว

อาคารกับเสื้อผ้ามีความคล้ายคลึงกัน เพราะทั้งสองสิ่งนี้เป็นตัวควบคุมขอบเขตทั้งภายในและภายนอก ดั่งเช่นอาคารที่คอยปกป้องผู้คนจากลม ฝน และอุณหภูมิที่รุนแรง ฮีทเทคและแอริซึ่มเองก็เป็นเสื้อผ้าที่ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบายเช่นเดียวกัน เสื้อผ้ายังต้องรับมือกับหน้าที่หลายอย่างในการตอบสนองต่ออุณหภูมิร่างกายและเหงื่อของผู้สวมใส่โดยไม่ใช้พลังงานแม้แต่นิดเดียว ซึ่งลักษณะเด่นของเสื้อผ้าในจุดนี้เองที่ทำให้ผมตกผลึกตอนออกแบบร้านสาขาที่ Maebashi Minami IC

เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานและช่วยประหยัดพลังงานได้พร้อมกัน

ร้านสาขาใหม่ในย่านชานเมือง Maebashi มาในธีมหลักที่พร้อมพาคุณ "เชื่อมต่อกับผืนดิน" ณ สถานที่แห่งนี้คุณจะพบกับผืนฟ้าอันกว้างใหญ่ เราเห็นพ้องต้องกันว่าอาคารที่ดีคืออาคารที่สามารถมองทะลุเข้าไปได้ พร้อมด้วยพื้นที่ภายในอันโอ่โถงให้คุณชมวิวด้านนอกได้อย่างสบายตา

ตัวอาคารด้านหน้า (ผนังด้านหน้า) เป็นกระจกใสบังด้วยชายคาทรงลึก ทำให้เกิดเป็นพื้นที่ดุจดั่งเฉลียงเอ็นกาวะ ซึ่งเป็นลานโอบล้อมตัวบ้านสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับจิบกาแฟและจัดงานอีเวนต์ ทั้งยังเป็นสะพานเชื่อมพื้นที่ภายในและภายนอกเข้าด้วยกัน

อาคารหลังนี้ออกแบบมาให้ผลิตและเก็บรักษาพลังงานเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาสามารถจ่ายไฟได้ถึงประมาณหนึ่งในสามของปริมาณไฟฟ้าที่ใช้ในบริเวณร้านแต่ละปี นอกจากนี้ โครงสร้างอาคารยังมาพร้อมคุณสมบัติอีกหลายอย่างที่ช่วยประหยัดพลังงาน เพดานกระจกออกแบบมาให้มีแสงธรรมชาติส่องผ่านช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงาน เนื่องจากแสงมีความเข้มแตกต่างกันไปตามสภาพอากาศ ฤดูกาล และช่วงเวลาของวัน จึงมีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงสลัวเพื่อมอบความสว่างให้กับอาคารได้อย่างพอเหมาะอยู่ตลอดเวลา ผู้คนที่ทำงานในร้านสาขาจะสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของแสงจากช่วงเช้าเป็นช่วงบ่ายไปจนถึงช่วงเย็น ซึ่งเป็นการกระตุ้นประสาทสัมผัสให้รับรู้ถึงเวลาที่ล่วงเลย

รวมทั้งมีการเปิดใช้งานระบบปรับอากาศเพื่อจัดการกับก๊าซ CO₂ และความชื้นภายในอาคารที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีลูกค้าเข้าร้านเป็นปริมาณมาก บริเวณทางเข้าสำหรับลูกค้าทั้งสองทางได้รับการติดตั้งม่านอากาศเพื่อช่วยลดความแปรปรวนของอุณหภูมิภายในอาคาร ขณะที่ฉนวนบนเพดานและผนังสร้างขึ้นจากเสื้อผ้ารีไซเคิลและเศษผ้าจากยูนิโคล่

สวยงามและตอบโจทย์การใช้งาน

หลายต่อหลายครั้งฉันมักจะตกตะลึงกับการออกแบบอย่างมีระดับและความพิถีพิถันในรายละเอียดของเสื้อผ้าจากยูนิโคล่ โดยเป็นความสวยงามที่สามารถนำมาประยุกต์ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัว พื้นที่ภายในร้านสาขาสะท้อนให้เห็นถึงการแสวงหาความสมบูรณ์แบบอย่างไม่หยุดยั้งตามแบบฉบับยูนิโคล่ เราร่วมกันปรับเปลี่ยนแบบลงลึกถึงรายละเอียดเพื่อให้คุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุด และอยากเชิญชวนให้นักศึกษาสถาปัตยกรรมเข้ามารับชมรายละเอียดต่างๆ อย่างใกล้ชิด คุณจะค้นพบสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแน่นอน

โลโก้สีแดงอันมหึมาเป็นผลงานที่รังสรรค์ขึ้นภายใต้ความร่วมมือกับ Kashiwa Sato โดยมาพร้อมประโยชน์ในการซ่อนระบบค้ำยันที่ทนต่อการเกิดแผ่นดินไหว โลโก้จึงมิใช่สิ่งประดับตกแต่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของโครงสร้างอาคารอีกด้วย

เลื่อน

❶ RE.UNIQLO STUDIO

เชิญแวะชมร้านและนำเสื้อผ้ายูนิโคล่ของคุณมาซ่อมแซมหรือปรับดีไซน์ด้วยลายปักหรือผ้าปะ เพื่อดึงจุดเด่นของเสื้อผ้าออกมาให้ได้มากที่สุด

❷ UNIQLO KIDS BOX

เป็นพื้นที่ให้เด็กๆ ได้เล่นซน เสริมความสนุกด้วยกระดานลื่น ปูพื้นนุ่นเต็มพื้นที่และมีหนังสือภาพอีกมากมาย

❸ UNIQLO FLOWER

ดอกไม้ก็เป็นดั่งเสื้อผ้าที่เข้ามาแต่งแต้มสีสันให้กับชีวิตของคุณ เชิญชมไม้ตัดดอกและไม้กระถางตามฤดูกาลที่ผ่านการบรรจงคัดสรรมาโดยเฉพาะ เรามีบริการห่อของขวัญให้พร้อมสรรพ

❹ UNIQLO COFFEE

มีกาแฟ น้ำผลไม้ ตลอดจนขนมอบสดใหม่จากร้านให้เลือกสรรหลากหลายเมนู พร้อมโต๊ะนั่งให้คุณได้หยุดพักผ่อนอย่างเต็มที่

A. ม่านอากาศ

ยูนิโคล่ได้ทำการทดสอบประตูอัตโนมัติที่ร้านสาขาของเราจนพบว่า การเสริมม่านอากาศบริเวณทางเข้าช่วยให้สามารถควบคุมความสมดุลระหว่างแรงดันอากาศภายในกับภายนอกอาคาร ลดปริมาณอากาศจากภายนอกที่ไหลเข้ามาภายในร้าน รวมทั้งยังรักษาอากาศที่ผ่านการควบคุมอุณหภูมิไว้ไม่ให้ไหลออกขณะเปิดประตู

B. ฉนวนรีไซเคิล

เราได้พัฒนาฉนวนจากวัสดุรีไซเคิลซึ่งมีส่วนประกอบเป็นเศษผ้าจากยูนิโคล่ถึง 30% การนำวัสดุเหล่านี้มาบุผนังด้านนอกและเพดานช่วยลดอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานจากระบบปรับอากาศได้

C. แผงโซลาร์เซลล์

ประมาณหนึ่งในสามของปริมาณไฟฟ้าที่ร้านสาขาใช้ไปในแต่ละปีได้รับการจ่ายไฟจากแผงโซลาร์เซลล์บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งเทียบเท่ากับ 15% ของพลังงานที่ใช้ในร้านสาขายูนิโคล่นอกห้าง*

D. เพดานกระจก

บริเวณใจกลางอาคารประดับด้วยเพดานกระจก นอกจากหน้าต่างจะใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติได้สูงสุดแล้ว ยังมาพร้อมฟังก์ชันตรวจจับแสงสลัวอัตโนมัติ ซึ่งมีส่วนช่วยชดเชยพลังงานที่ต้องใช้กับโคมไฟ เคียงคู่กับเพดานขนาด 5 เมตร ให้ความรู้สึกเปิดโล่งโปร่งสบาย

E. เซ็นเซอร์วัดปริมาณก๊าซ CO₂ และอุณหภูมิ

การถ่ายเทอากาศจะได้รับการควบคุมโดยสอดคล้องกับระดับก๊าซ CO₂ และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอันเป็นผลมาจากปริมาณลูกค้าที่เข้ามาภายในร้าน ณ ขณะนั้น พลังงานความร้อน (ความร้อนและความชื้น) จะถูกกำจัดออกไปจากอากาศเพื่อปรับปรุงคุณภาพและปริมาณของอากาศถ่ายเท ส่งผลให้เกิดการใช้พลังงานความร้อนทั้งภายในและภายนอกร้านสาขาอย่างมีประสิทธิภาพ

UNIQLO Maebashi Minami IC Store

Location: 2008 Kamesato-machi, Maebashi-shi, Gunma Prefecture

Operating Hours: 10 am–8 pm, closed on January 1 for New Year’s Day

Product Lines: MENS, WOMENS, KIDS, BABIES, MATERNITY

Access: Approx. five minutes by car from Maebashi Minami IC on the Kita-Kanto Expressway

สถานการณ์น้ำทั่วโลกมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ จึงจำเป็นต้องหาวิธีการจัดการที่เหมาะสมกับปัญหาในแต่ละที่

น้ำเป็นทรัพยากรที่จำเป็นต่อการผลิตเสื้อผ้าแทบทุกขั้นตอน ตั้งแต่การปลูกฝ้าย ย้อมสีเส้นด้าย การทอผ้า ไปจนถึงการรีดสินค้า เราจึงนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรน้ำได้อย่างยั่งยืน และเราจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เพื่อจัดการปัญหาด้านทรัพยากรน้ำของแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีความซับซ้อนเฉพาะตัวและต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมากในการแก้ไข

Illustrations by Yoshifumi Takeda

บริษัทผู้ผลิตเสื้อผ้ามีบทบาทรับผิดชอบหลักด้วยกันสองด้าน นั่นคือการลดปริมาณการใช้น้ำและควบคุมการปนเปื้อน ยูนิโคล่จึงเลือกทำธุรกิจกับโรงงานที่มีโครงการลดปริมาณการใช้น้ำและมีการตรวจสอบการปนเปื้อนในน้ำเสียเป็นระยะ ซึ่งหนึ่งในโรงงานที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ครบถ้วน คือโรงงานในประเทศเวียดนาม (ภาพด้านล่าง) ที่ดำเนินการโดยบริษัท Shenzhou International จากประเทศจีน เพื่อให้คุณเข้าใจถึงปัญหา เราจะมาดูภาพรวมของสถานการณ์น้ำที่เกิดขึ้นทั่วโลกกัน

สถานการณ์น้ำในแต่ละประเทศหรือแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันมาก จึงไม่อาจใช้วิธีการแบบเดียวกันจัดการกับทุกปัญหาได้ ในแต่ละพื้นที่ต่างก็มีปัญหาท้าทายเฉพาะตัว จึงจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบปัญหาในพื้นที่อย่างถี่ถ้วน พร้อมทั้งพิจารณาถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ การบริหารจัดการน้ำท่วม สภาพของน้ำกับระบบระบายน้ำ และกฎข้อบังคับเกี่ยวกับทรัพยากรน้ำ ซึ่งเราต้องจัดการประชุมเพื่อรับฟังปัญหาด้านต่างๆ ระบุแยกปัญหาแต่ละด้าน และร่วมมือกับสมาชิกในชุมชนเพื่อพัฒนาแผนการแก้ไขปัญหา

ภูมิภาคที่ต้องกรองน้ำดื่ม

ภูมิภาคดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงมีแม่น้ำโขงซึ่งเป็นสายน้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไหลผ่าน ซึ่งแม่น้ำที่ไหลผ่านพื้นที่หกประเทศก่อนไหลลงสู่ทะเลสายนี้เป็นหนึ่งในแม่น้ำที่มีสภาพเปราะบางที่สุดในโลก ปัญหาที่ท้าทายที่สุดของแม่น้ำสายนี้คือปัญหาน้ำเค็มที่เกิดจากน้ำทะเลหนุนสูง จนส่งผลกระทบต่อภาคการเกษตรรวมไปถึงการนำน้ำมาบริโภค

เราสืบหาต้นเหตุของปัญหาน้ำเค็มนี้ด้วยการตรวจสอบสภาพน้ำในบริเวณที่ตั้งของโรงงาน แล้วพบว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากปัจจัยหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และดินทรุดตัว ซึ่งต้องใช้เวลายาวนานอย่างมากจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ นั่นหมายความว่าการที่จะดำเนินการแก้ไขให้เห็นผลได้อย่างรวดเร็วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

จากการพูดคุยปรึกษาร่วมกับองค์การไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) ภายในเขตพื้นที่ซึ่งต่างให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาด้านน้ำเป็นหลัก ทำให้ยูนิโคล่สามารถระบุพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำเค็มรุนแรงจนทำให้เยาวชนมีน้ำดื่มไม่เพียงพอได้สำเร็จ และได้ดำเนินการติดตั้งระบบกรองน้ำดื่มในสถานเลี้ยงเด็ก โรงเรียนอนุบาล และโรงเรียนประถมไปแล้วรวมทั้งสิ้นสิบแห่ง อีกทั้งยังเปิดกว้างให้ชุมชนโดยรอบสามารถใช้ระบบกรองน้ำนี้ได้ในสถานการณ์ฉุกเฉินด้วย

ปัญหาด้านทรัพยากรน้ำมีความเฉพาะตัวในทุกพื้นที่

สาเหตุใหญ่ของปัญหาด้านทรัพยากรน้ำที่กำลังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างทั่วโลกนั้นเกิดจากการที่สภาพภูมิอากาศของโลกเปลี่ยนแปลง การอนุรักษ์น้ำในครัวเรือนช่วยบรรเทาปัญหาเหล่านี้ได้ แต่โชคไม่ดีที่วิธีการนี้ไม่เพียงพอต่อการแก้ไขวิกฤตการณ์น้ำของโลก เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนวิธีแก้ไขปัญหาในภาพรวมให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ นำสถานการณ์เฉพาะตัวของพื้นที่แต่ละแห่งมาพิจารณา แล้วร่วมมือกับชุมชนในการพัฒนาแผนการปฏิบัติจริงพร้อมทั้งให้การสนับสนุนการดำเนินงานต่างๆ

นอกจากการเดินหน้าพัฒนาโครงการลดปริมาณการใช้น้ำและลดการปนเปื้อนในโรงงานของพันธมิตรแล้ว ยูนิโคล่ยังมุ่งมั่นที่จะค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่รุนแรงและมีความเฉพาะตัวในแต่ละพื้นที่อีกด้วย

ปัญหาด้านทรัพยากรน้ำมีความเฉพาะตัวในทุกพื้นที่

เพื่อป้องกันปัญหาการขาดแคลนน้ำบริโภคจากน้ำเค็มในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของประเทศเวียดนาม เราได้ร่วมมือกับชุมชมต่างๆ เพื่อติดตั้งระบบกรองน้ำให้กับโรงเรียนหลายแห่ง

โรงงานของเราตั้งเป้าที่จะใช้น้ำจากแหล่งน้ำรีไซเคิลให้ได้มากถึง 30% ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่

Ho Kai

หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Shenzhou International

ผมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทในสาขาวิชาสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อม ผมมีความสนใจในการบริหารจัดการแหล่งน้ำและการอนุรักษ์สภาพแวดล้อมเป็นพิเศษ เพราะทรัพยากรทุกอย่างบนโลกนี้รวมถึงน้ำเป็นสิ่งที่ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้การวิจัยและนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมาช่วยให้เราสามารถใช้ทรัพยากรเหล่านี้ได้โดยเกิดผลกระทบน้อยที่สุด

นี่คือเป้าหมายที่ผมกำลังทำให้เป็นจริงในบริษัท Shenzhou International ซึ่งเป็นผู้ผลิตเสื้อผ้ารายใหญ่ โดยโรงงานของเราจำเป็นต้องใช้น้ำและพลังงานในการย้อมผ้า ผลิตผ้า และตัดเย็บเสื้อผ้า ดังนั้นเพื่อลดปริมาณการใช้น้ำให้น้อยลง เราจึงใช้ระบบบำบัดน้ำเสียที่ล้ำสมัยเพื่อบำบัดน้ำให้สะอาดจนแทบไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับสิ่งแวดล้อม แล้วนำน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ซ้ำ นอกจากนี้ เรายังตั้งเป้าหมายในการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้สูงมากขึ้นในทุกปีอีกด้วย

ปรับปรุงการทำงานที่สิ้นเปลืองน้ำมากที่สุด

สถานที่ตั้งโรงงานที่ดีประกอบด้วยปัจจัยหลายด้าน แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำ โรงงาน Gain Lucky ของบริษัท Shenzhou International ในประเทศเวียดนาม ใช้แหล่งน้ำจากเขื่อนเก็บน้ำที่จ่ายน้ำหล่อเลี้ยงนครโฮจิมินห์ น้ำจากเขื่อนจะได้รับการกรองจนสะอาดในระดับเดียวกับน้ำประปาก่อนนำมาใช้ในโรงงาน

ขั้นตอนการผลิตที่ใช้น้ำมากที่สุดคือการย้อมเส้นด้ายและย้อมผ้า ซึ่งคิดเป็น 85% ของปริมาณการใช้น้ำทั้งหมด ในขณะที่เครื่องรีดผ้าใช้น้ำประมาณ 10% และอีก 5% ที่เหลือเป็นการใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคในโรงอาหาร ห้องน้ำ และใช้ในการป้องกันอัคคีภัย หน้าที่ของผมก็คือการลดอัตราการใช้น้ำเหล่านี้ลง

โรงงานตั้งเป้าหมายที่จะนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ให้มากถึง 30%

น้ำที่ใช้ในการย้อมสีจะถือเป็นน้ำเสียทั้งหมด และน้ำเสียทั้งหมดจากโรงงานของเราจะได้รับการบำบัดภายในโรงงาน โดยการบำบัดแบ่งเป็นขั้นตอนใหญ่ได้สามขั้นตอน: ขั้นตอนแรกคือการบำบัดทางกายภาพด้วยการทำให้ตกตะกอนและการกรอง ขั้นตอนที่สองคือการบำบัดทางเคมีด้วยสารที่ทำให้น้ำมีค่าเป็นกลาง และขั้นตอนที่สามคือการบำบัดทางชีวภาพด้วยจุลินทรีย์ ขั้นตอนเหล่านี้จะบำบัดน้ำให้กลับมาสะอาดในระดับที่เรียกว่า Level A ซึ่งเทียบเท่ากับธารน้ำใสที่ปลาสามารถอาศัยอยู่ได้ จึงทำให้สามารถระบายน้ำออกสู่สภาพแวดล้อมได้อย่างปลอดภัย

อีกวิธีการหนึ่งที่ช่วยลดความสิ้นเปลืองน้ำในโรงงานได้คือการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ เราจึงใช้ระบบกรองน้ำแบบรีเวิร์สออสโมซิส (RO) (ดูรายละเอียดได้ข้างล่าง) กรองน้ำเสียที่จะระบายออกให้กลับมาสะอาดจนสามารถดื่มได้เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่

ระบบการกรองนี้เป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่องค์การนาซา (NASA) ใช้ในสถานีอวกาศเพื่อกรองน้ำให้นักบินอวกาศมีน้ำสะอาดไว้ดื่ม

ในตอนนี้เราสามารถระบายน้ำที่ผ่านการบำบัดได้ถึง 85–90% แต่เราตั้งใจที่จะกรองน้ำด้วยระบบ RO ให้มากขึ้น เพื่อให้สามารถนำน้ำที่ผ่านการกรองกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น จนบรรลุเป้าหมายในการใช้น้ำที่ผ่านการรีไซเคิล 30% ได้สำเร็จ

นอกจากนี้ โรงงานต้องได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วย ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและปรับตัวให้เข้ากับชุมชนโดยรอบ สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุขมากที่สุดคือการที่ได้วางระบบจนทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นความจริงได้

เขื่อนกักเก็บน้ำ

กระบวนการบำบัดน้ำเสียของโรงงาน Shenzhou International ในประเทศเวียดนาม

การย้อมผ้าและย้อมเส้นด้ายจำเป็นต้องใช้น้ำปริมาณมาก โรงงานต่างๆ จึงต้องตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ ซึ่งโรงงานในประเทศเวียดนามของเราใช้น้ำที่ส่งมาจากเขื่อนกักเก็บน้ำ โดยเราใช้น้ำในการย้อมผ้าถึง 85% ของปริมาณการใช้น้ำทั้งหมด น้ำเสียจากการย้อมผ้าจะได้รับการบำบัดด้วยวิธีการต่างๆ จนผ่านเกณฑ์คุณภาพที่สะอาดเพียงพอก่อนระบายออก ซึ่งน้ำเสียบางส่วนจะได้รับการบำบัดจนสามารถดื่มได้ และน้ำที่กรองจนสะอาดดื่มได้นี้จะถูกนำกลับไปใช้ใหม่ในโรงงานแทบทั้งหมด

Illustrations by Yoshifumi Takeda

น้ำจากแหล่งกักเก็บน้ำ

ถังกรองสิ่งปนเปื้อน

น้ำที่ถูกส่งมาจากแหล่งกักเก็บน้ำจะถูกกรองสิ่งปนเปื้อนออกด้วยถังกรองที่อัดแน่นไปด้วยทรายเนื้อละเอียด จากนั้นจะถูกกรองผ่านตัวกรองความเร็วสูงอีกครั้งก่อนจ่ายน้ำเข้าท่อสำหรับใช้งาน

ขั้นตอนการย้อมสี

การย้อมสีต้องใช้น้ำมากถึง 85% ของปริมาณการใช้น้ำทั้งหมด ส่วนอีก 10% จะถูกนำไปใช้ในเครื่องรีดผ้าและในเครื่องจักรอื่นๆ และอีก 5% จะใช้สำหรับการอุปโภคบริโภคทั่วไปและในอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย

ระบบกรองน้ำด้วยทราย

น้ำเสียจากการย้อมผ้าจะถูกบำบัดด้วยระบบกรองน้ำด้วยทราย สิ่งปนเปื้อนจะถูกเม็ดทรายควอร์ตอัดแน่นเนื้อละเอียดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียงประมาณ 1 มม. กักเก็บไว้

❶ขาเข้า

❷ขาออก

❸ท่อกรอง

❹เม็ดทรายควอร์ต

❺หินบด

ระบบ UF

เมมเบรน Ultrafiltration (UF) ประกอบด้วยแผ่นเมมเบรนทรงแบน แผ่นเมมเบรนทรงหลอด และแผ่นเมมเบรนเส้นใยกลวง เมื่อใช้แรงดันส่งน้ำผ่านเมมเบรนเหล่านี้ อนุภาคขนาดเล็ก เช่น โปรตีน ไวรัส และแบคทีเรียจะถูกกรองออกจากน้ำ