จากบ้านมาแสนไกล
Dariia Baranovska เกิดและเติบโตในประเทศยูเครน
ปัจจุบันทำงานที่ร้านสาขาของยูนิโคล่ในเมืองอัมสเตอร์ดัม
THE POWER OF
CLOTHING
ตุลาคม 2022 ฉบับที่ 23
“ฉันเดินทางมากับคู่หมั้นแต่หนึ่งวันก่อนที่จะกลับบ้าน ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปหมด”
Dariia เกิดที่เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน เธอมีความสนใจเกี่ยวกับภาพยนตร์แอนิเมชันและปรัชญาเป็นอย่างมาก จากการรุกรานของรัสเซียนั้น ทำให้ในช่วงที่อยู่โปแลนด์เธอและคู่หมั้นไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้
Photographs by Shinsuke Kamioka
Dariia Baranovska
เธอเป็นพนักงานที่ร้านสาขาของยูนิโคล่ในย่าน Kalverstraat เมืองอัมสเตอร์ดัม นอกจาก Dariia แล้ว ร้านสาขาแห่งนี้ยังมีพนักงานคนอื่นที่ได้รับการจ้างงาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจสำคัญในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัย
ฉันกับ Alex คู่หมั้นออกเดินทางไปประเทศโปแลนด์ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ เราพักอยู่ที่เมือง Kraków อดีตเมืองหลวงของราชอาณาจักรโปแลนด์อยู่ราวๆ 2-3 สัปดาห์ เมืองนี้อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์และขนบธรรมเนียมประเพณีมากมาย
เราวางแผนจะเดินทางกลับในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ แต่ในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ Alex ก็มาปลุกฉันตอนเช้ามืด ประมาณตี 5 น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขาบอกว่า “เรากลับบ้านที่เคียฟไม่ได้แล้ว” เพราะรัสเซียได้รุกรานประเทศยูเครน
รอบๆ เมืองเคียฟซึ่งเป็นบ้านเกิดและเป็นสถานที่ที่ฉันเติบโตก็ถูกโจมตีด้วยเช่นกัน ตอนนั้นไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราแทบจะไม่ละสายตาจากโทรทัศน์จนเลยช่วงบ่าย ผู้คนต่างหลบหนีออกจากยูเครนด้วยรถยนต์จนการจราจรติดขัดยาวกว่า 500 กิโลเมตรตั้งแต่เมืองเคียฟไปจนถึงโปแลนด์ ฉันไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
ทุกอย่างที่เห็นหรือได้ยินดูไร้เหตุผลไปหมด นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเราในแบบที่ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อน
Alex กล่าวต่อว่า “เราอยากจะกลับไปสู้ที่ยูเครน” แต่เราคุยกันเรื่องนี้บ่อยมากจนได้ข้อสรุปว่า เรายังสามารถช่วยเหลืออย่างอื่นได้แม้จะอยู่ที่โปแลนด์ก็ตาม แม่ของ Alex ซึ่งอยู่ที่เมืองเคียฟ ขับรถข้ามพรมแดนเพื่อมาหาพวกเรา เธอเดินทางมาถึงที่ Kraków อย่างปลอดภัย แล้วบอกให้พวกเรารอเพื่อหาทางอยู่ที่นี่ซักพัก
Limmen อยู่ห่างจากเมืองเคียฟไปประมาณ 2,000 กิโลเมตรในการเดินทางด้วยรถยนต์
Animated Films and Existentialist
Philosophy
ฉันเรียนเศรษฐศาสตร์ในระดับปริญญาโท และชื่นชอบภาพยนตร์มาตลอด เลยทำวิจัยเรื่องแนวทางในการปรับปรุงโครงสร้างทางธุรกิจของโรงภาพยนตร์ในเมืองเคียฟ ฉันชอบดูภาพยนตร์ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้ว แม้ตอนนี้จะเลยยุคทองของการเผยแพร่ไปแล้ว แต่ฉันก็อยากทำหน้าที่ของฉันเพื่อให้ผู้คนรุ่นหลังได้สัมผัสประสบการณ์สนุกสนานในการรับชมภาพยนต์บนจอเงินอีกครั้ง
ฉันชอบเรื่องราวโรแมนติกแบบคลาสสิกอย่างเรื่อง Pride and Prejudice ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ Jane Austen แต่ฉันก็ชอบแอนิเมชันด้วย ทั้งการ์ตูน Walt Disney เก่าๆ จนถึงแอนิเมชันใหม่ๆ จาก Pixar และ Hayao Miyazaki ตอนที่เรื่อง Spirited Away มาฉายที่ยูเครน ฉันเพิ่งอายุ 7 ขวบเอง
ในช่วงที่กำลังเรียนต่อปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์ ฉันต้องเรียนวิชาปรัชญากับภาษาอังกฤษเป็นวิชาพิเศษ นั่นคือจุดเริ่มต้นของฉันในการเรียนปรัชญา แล้วฉันก็ตกหลุมรักวิชานี้เข้าอย่างจังในเวลาไม่นาน ตอนนั้นแม่ของฉันยังมีสุขภาพดีได้เอาหนังสือเกี่ยวกับปรัชญาเล่มโปรดของเธอมาให้ หนังสือเล่มนี้เป็นตัวจุดประกายให้ฉันสนใจในเรื่องอเทวนิยมของ Diderot และอัตถิภาวนิยมของ Sartre ฉันรู้สึกว่ามันน่าสนใจจนเกือบย้ายไปเรียนเรื่องปรัชญาแทนเลย
หนังสือแสนรักของ Dariia ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับแอนิเมชัน (บน) ที่เธอนำติดตัวไปประเทศโปแลนด์ กับหนังสือปรัชญาเบื้องต้นจากคุณแม่ของเธอ
เช่าบ้านพักในประเทศเนเธอร์แลนด์
พอเกิดเรื่องขึ้นจนต้องดรอปเรียนปริญญาโท ฉันก็ไปทำงานเกี่ยวกับการสร้างภาพยนตร์และการตัดต่อ จากนั้นก็ไปทำงานเป็นฝ่ายบริการลูกค้าทางออนไลน์ให้กับ Amazon ฉันทำงานไปสักระยะหนึ่งจนรู้สึกว่าคงกลับบ้านไม่ได้แล้ว ส่วน Alex ทำงานในบริษัทโฆษณาและสามารถทำงานทางไกลได้
แม่ของ Alex ขับรถมาหาเราที่โปแลนด์แม้จะใช้เวลานานถึง 15 ชั่วโมง ตอนที่เรากำลังคิดว่าจะไปอยู่ที่ไหนดี แม่ของ Alex ก็ได้รับข้อความจากเพื่อนสนิทว่าเขารู้จักคนที่ปล่อยอพาร์ทเมนต์ให้เช่าทาง Airbnb ที่เนเธอร์แลนด์ และอพาร์ทเมนต์นั้นก็ยังว่างอยู่ เลยให้พวกเราเข้าไปพักที่นั่นได้ฟรี สิ่งนี้ช่วยชีวิตเราได้มาก
เราเลยเดินทางออกจากโปแลนด์ไปทางตะวันตก ข้ามประเทศเยอรมนีไปจนถึงประเทศเนเธอร์แลนด์เพื่อมุ่งหน้าสู่เมือง Limmen ที่อยู่ทางเหนือของอัมสเตอร์ดัม
ภาพของ Dariia ในวัยเด็กกับแม่ของเธอที่สวนพฤกษศาสตร์แห่งชาติเคียฟ โดยแม่ของเธอสวมสร้อยคอรูปตราแผ่นดินของประเทศยูเครน
บ้านที่เราหาได้ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนของคุณแม่ของ Alex อยู่ท่ามกลางทิวทัศน์เขียวขจีในชนบทซึ่งสวยงามมากๆ พวกเราสามคน ทั้งฉัน Alex แล้วก็แม่ของเขาได้เปลี่ยนที่นี่ให้เป็นบ้านหลังใหม่ บ้านที่เราไม่คิดว่าจะได้มาถ้าไม่มีสงครามเกิดขึ้น Limmen เมืองที่เราอาศัยอยู่ในตอนนี้อยู่ห่างจากเคียฟไปเกือบ 2,000 กิโลเมตร
การได้เจอบ้านหลังนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากก็จริง แต่เนื่องจาก Alex กับฉันเดินทางมาเที่ยวแต่แรกก็เลยมีแต่เสื้อผ้าสำหรับอากาศหนาว ส่วนแม่ของเขาแทบไม่มีเสื้อผ้าติดตัวมาเลย เราก็เลยต้องเริ่มนับจากศูนย์ใหม่
พอเราได้ทราบเรื่องเกี่ยวกับร้านค้าการกุศลในชุมชนใกล้ๆ เราก็รีบเดินทางไปดูทันที เราได้สิ่งของต่างๆ สำหรับใช้ในบ้านมากมายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยสักนิดเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยเราได้มาก
แพนเค้กสำหรับอาหารเช้าที่มีรสชาติหนักไปทางหวาน แต่งหน้าด้วยผลไม้ในแบบที่ Alex ชอบ
ผู้ลี้ภัยที่มาจากประเทศยูเครนส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงกับเด็ก ที่ร้านค้ามีของใช้ทุกอย่างสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก รวมทั้งของเล่นด้วย เรารู้สึกตื้นตันกับความเอาใจใส่ ภูมิปัญญา และความโอบอ้อมอารีของผู้คนที่นี่มากๆ
หลังจากมาที่ร้านนี้ได้สองสามครั้ง ก็มีคนมาถามเราว่า “นี่ พวกเธอต้องการจักรยานรึเปล่า” เพื่อนบ้านของเราเกือบทุกคนใช้จักรยานเพื่อการสัญจรไปมา ซึ่งเป็นวิธีที่สะดวกในการเดินทางไปมาระหว่างสถานีรถไฟ “เราต้องการถ้าคุณยังมีเหลือ” เราบอกเขาไปแบบนั้น ไม่ถึงสองสัปดาห์ก็มีจักรยานโผล่มาสองคัน เราแทบไม่เชื่อสายตาเลย
เราไม่เคยขี่จักรยานเลยตอนอยู่ที่เคียฟ เราจึงลองฝึกขี่ไปรอบๆ ก่อน ไม่นานเราก็ขี่คล่องจนปั่นจักรยานไปสถานีรถไฟได้ บรรยากาศโดยรอบบริเวณบ้านเป็นชนบท การปั่นจักรยานจึงรู้สึกดีมากๆ และทำให้คุณรู้สึกปลอดโปร่งด้วย
ศูนย์ที่มีร้านค้าการกุศลอยู่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงชาวรัสเซียที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์มา 15 ปีแล้ว ร้านนี้ไม่ได้ขายแต่ของราคาประหยัดเท่านั้น แต่ยังเปิดสอนการสนทนาภาษาอังกฤษด้วย เพราะทุกคนที่นี่พูดคุยภาษาอังกฤษกัน ที่นี่จึงเป็นเหมือนศูนย์ช่วยเหลือสำหรับผู้ลี้ภัยที่ต้องการหาคำตอบให้ตนเอง
ทิวทัศน์ที่สวยงามทำให้การก้าวออกจากบ้านแต่ละวันเป็นเรื่องที่เพลิดเพลิน
มองหาสถานที่ทำงานที่เน้นการโต้ตอบ
ฉันไม่อยากเป็นแค่ผู้รับเท่านั้น ก็เลยมองหาร้านค้าที่สามารถเข้าไปทำงานได้ หาไปซักพัก ฉันก็กลายเป็นพนักงานที่คอยช่วยรับของบริจาคและทำความสะอาด การได้มีส่วนร่วมแบบนี้ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
หลังจากนั้นไม่นานก็ทราบว่าร้านสาขาของยูนิโคล่ในเมืองอัมสเตอร์ดัมมีโครงการจ้างงานผู้ลี้ภัยจากประเทศยูเครน ฉันเคยซื้อเสื้อขนเป็ดอัลตร้าไลท์ดาวน์ที่ยูนิโคล่มา และฉันชอบบรรยากาศภายในร้านมากๆ ฉันเลยรู้สึกตื่นเต้นกับการที่จะได้พูดคุยสื่อสารกับลูกค้าโดยตรงในร้านค้าขายปลีกแบบนั้น
การอยู่บ้านตลอดเวลาทำให้เราจมอยู่กับความคิดถึงเพื่อนและครอบครัวที่เคียฟมากเกินไป จมอยู่กับเรื่องที่เกิดในประเทศยูเครนและสงคราม มีแต่ความคิดของเรื่องพวกนั้น กับความกังวลเกี่ยวกับก้าวต่อไปในชีวิต แต่การที่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทำให้ฉันไม่สามารถปิดกั้นตัวเองได้ ฉันจึงคิดได้ว่า ฉันจะต้องใช้เวลากับสภาพแวดล้อมแบบนี้
หลายๆ สิ่งผ่านไปได้ด้วยดี ฉันได้มาทำงานในร้านสาขา ได้ช่วยเหลือลูกค้ามากมาย เพื่อนพนักงานทุกคนก็ให้ความรู้สึกสนุกสนานที่ได้ร่วมงานด้วย งานนี้จึงเหมาะกับฉันมากๆ
อัมสเตอร์ดัมเป็นเมืองที่มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกมารวมตัวกัน อย่างน้อยๆ ก็เกินครึ่งหนึ่งที่เป็นคนจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่เนเธอร์แลนด์ พนักงานและลูกค้าที่นี่ก็มีภูมิหลังแตกต่างกันหลากหลาย ทุกคนมีมุมมองในสิ่งต่างๆ ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากๆ
การได้ทำงานกับลูกค้าทุกๆ วัน ก็เป็นการฝึกความคิดของฉันไปด้วย คำถามแบบ “เสื้อผ้าชิ้นนี้จะช่วยให้ฉันรู้สึกอบอุ่นในฤดูหนาวได้หรือเปล่า” จะมีความหมายที่ไม่เหมือนกันสำหรับลูกค้าจากประเทศนอร์เวย์และประเทศสเปน คำตอบก็ต้องไม่เหมือนกันด้วย ฉันจึงคุ้นชินกับการตอบคำถามที่คำนึงถึงบริบทเป็นหลัก อย่างเช่น “ไอเทมนี้ไม่น่าจะอุ่นพอถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศานะ” ความหลากหลายในเมืองอัมสเตอร์ดัมจึงมอบบทเรียนให้กับฉันมากมาย
การพบปะกับลูกค้าที่ร้านสาขาของยูนิโคล่ในย่าน Kalverstraat เมืองอัมสเตอร์ดัม
หวนคืนสู่ยูเครน
สำเนียงและการออกเสียงภาษาอังกฤษของฉันมักทำให้หลายๆ คนชอบถามว่า “เธอมาจากประเทศอะไร” การออกเสียงของชาวยูเครนจะนุ่มนวลมากกว่าชาวรัสเซีย บางคนก็บอกว่าเสียงฟังดูไพเราะเหมือนชาวอิตาลี แต่มีครั้งหนึ่งลูกค้าบอกฉันว่า “สำเนียงคุณดูชัดกว่าจะเป็นชาวยูเครนนะ” ฉันพูดได้ทั้งสำเนียงยูเครนและรัสเซีย ก็เลยสงสัยว่าทักษะด้านภาษารัสเซียที่มีส่งผลกับวิธีการพูดภาษาอังกฤษของฉันหรือเปล่า คุณจะได้ค้นพบเรื่องพวกนี้ก็ตอนทำงานกับคนอื่นแบบตัวต่อตัวเท่านั้น การได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจึงเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามาก
แน่นอนว่าสักวันหนึ่ง ฉันก็ต้องกลับบ้านเกิดที่ยูเครน การที่ต้องจากถิ่นฐานบ้านเกิดแบบนี้ทำให้ Alex ทุกข์ใจมาก แต่ในความเป็นจริง เราก็คงไม่ได้กลับบ้านในเร็วๆ นี้แน่
เมื่อสงครามเริ่มขึ้น กว่าเรื่องราวจะสงบลงได้ก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก จะต้องมีการสูญเสียชีวิตมากขึ้นอีก ฉันไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนแต่ก็ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ว่า สันติภาพไม่ใช่สิ่งที่จะหามาได้ง่ายๆ แต่เราก็จะไม่หมดหวังกับสันติภาพ และเราก็จะไม่ลืมบ้านเกิดเราด้วย ความคิดเหล่านี้ทำให้ฉันฝ่าฟันชีวิตในแต่ละวันไปได้
หลังจากทำงาน Alex จะไปซ้อมยูโดในโรงฝึกแถวๆ บ้าน
ทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงแกะเหมาะสำหรับการเดินเล่นมากๆ สร้อยคอของ Dariia เป็นของดูต่างหน้าจากคุณแม่ของเธอ
5 วันหลังจากที่สงครามปะทุขึ้น ยูนิโคล่ได้ส่งมอบเสื้อผ้ากว่าห้าหมื่นชุดไปยังประเทศโปแลนด์
การตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ในประเทศยูเครนของยูนิโคล่ ประสานงานกับหน่วยงาน NGO ต่างๆ และจัดทำระบบเพื่อให้การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในร้านค้าสาขาและออนไลน์สโตร์
Maria Samoto le Dous
หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนประจำภูมิภาคยุโรป/รัสเซีย
Maria เป็นผู้ที่นำแนวทางการสื่อสารเชิงบวกมาใช้ ในความพยายามของเราเพื่อว่าจ้างผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเมื่อ 6 ปีก่อน เราได้ช่วยเหลือชายหนุ่มรายหนึ่งที่ได้หลบหนีออกมาจากประเทศซีเรียเพื่อให้ได้ทำงานในร้านสาขาของยูนิโคล่ในเมืองเบอร์ลิน ปัจจุบันนี้ เขาคือส่วนหนึ่งของทีมปฏิบัติการร้านสาขาของยูนิโคล่ในประเทศเยอรมนี
ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพฤหัส แต่พอถึงต้นสัปดาห์ถัดไป กล่องจดหมายของเราก็มีข้อความจากผู้คนที่ต้องการเสนอความช่วยเหลือเข้ามาอย่างล้นหลาม
ผู้ลี้ภัยที่มาจากประเทศยูเครนส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง เด็ก และคนชรา และโปแลนด์ที่เป็นศูนย์กลางปฏิบัติการของเราในครั้งนี้ก็มีอากาศหนาวต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง การจัดหาเสื้อผ้าเพื่อความอบอุ่นให้กับผู้ลี้ภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญอันดับแรก
เราจึงได้ติดต่อกับ Goods for Good ซึ่งเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ยาวนานของเราเพื่อให้ช่วยส่งมอบเสื้อผ้าฤดูหนาวจากคลังสินค้าของเรา ความช่วยเหลือของพวกเขาทำให้เราสามารถส่งมอบสินค้าได้กว่า 5 หมื่นชิ้นไปยังประเทศโปแลนด์ได้
เหตุการณ์นี้จึงเป็นการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรานับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองในประเทศซีเรีย ฉันอาศัยอยู่ที่ประเทศเยอรมนีในตอนนั้น ก็เลยได้เห็นผู้ลี้ภัยไหลทะลักข้ามพรมแดนไปยังประเทศเยอรมนีถึง 1.2 ล้านคนในปีแรก
เรื่องนี้สอนให้ฉันรู้ว่าการจัดหาเสื้อผ้าและโอกาสในการจ้างงานให้กับผู้พลัดถิ่นคือหนทางที่ได้ผลดีที่สุดเมื่อได้รับความร่วมมือจากอาสาสมัครภายใน ตลอดจนหน่วยงาน NGO และองค์กรต่างๆ เช่น UNHCR
ในขณะที่เราส่งมอบความช่วยเหลือเป็นเสื้อผ้าอย่างต่อเนื่อง เราก็สามารถว่าจ้างผู้ลี้ภัยชาวยูเครนได้อย่างเป็นรูปธรรม ตลอดช่วงเวลาสองเดือนที่ผ่านมา เราได้ว่าจ้างพนักงานชาวยูเครนไปแล้วกว่า 20 คน
เดินหน้าสู่ความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม
การเคารพต่อความแตกต่างด้านเชื้อชาติและถิ่นกำเนิด และไม่ยอมรับการเลือกปฏิบัติถือเป็นหนึ่งในนโยบายการจ้างพนักงานของเรา สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมาคือ ความหลากหลายภายในทีมจะช่วยเสริมสร้างความเคารพซึ่งกันและกัน ซึ่งนอกจากจะส่งผลให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังทำให้การทำงานภายในร้านสาขาและคุณภาพของบริการดีขึ้นด้วย
การที่จะไปถึงจุดนั้นได้ เราต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้าใจในความแตกต่างของวัฒนธรรมก่อน หากเราไม่ตระหนักถึงความแตกต่างด้านความเชื่อและวิถีชีวิตแล้ว การกระทำเพียงน้อยนิดก็อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดได้ เช่น บางพื้นที่ในทวีปแอฟริกา การจ้องตาครูบาอาจารย์หรือผู้ที่อาวุโสกว่าถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำอย่างยิ่ง คุณอาจจะพอนึกออกว่าความเข้าใจผิดเล็กๆ แค่นี้จะสร้างความเสียหายได้ขนาดไหน ประเทศยูเครนมีหลายสิ่งเหมือนกับประเทศอื่นในทวีปยุโรปก็จริง แต่เราก็ต้องพยายามเรียนรู้ว่าวัฒนธรรมของประเทศนี้มีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์บ้าง
ตัดป้ายเพื่อป้องกันการนำสินค้ากลับมาจำหน่ายใหม่
สร้างขอบข่ายงานเพื่อให้การช่วยเหลือ
นอกจากความช่วยเหลือทางด้านเสื้อผ้าแล้ว เรายังมีการบริจาคเงินด้วย ในช่วงแรกเราเริ่มทำเป็นโครงการระดมทุนกันภายใน ก่อนจะขยับขยายไปสู่การเปิดรับบริจาคจากลูกค้าของเรา
เรายังได้สร้างขอบข่ายงานเพื่อเปิดรับการบริจาคที่ร้านสาขา จำนวนเงินในการซื้อสินค้ามักเหลือเป็นเศษอยู่แล้ว เราจึงได้สร้างระบบขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าสามารถบริจาคเงินจำนวนเล็กๆ น้อยๆ หรือปัดเศษราคาขายที่จุดจำหน่ายสินค้าได้ วิธีนี้จึงทำให้เรารวบรวมเงินได้หลายแสนยูโรจากลูกค้ากว่า 3 หมื่นราย การเพิ่มเงินบริจาคลงไปในเครื่องคิดเงินช่วยลดความยุ่งยากและทำให้ผู้คนทั่วไปมีส่วนร่วมได้ง่ายขึ้นด้วย
การตอบสนองต่อวิกฤตการณ์ในประเทศยูเครนครั้งนี้ทำให้เราจัดลำดับความสำคัญต่อปัญหาที่เกี่ยวกับผู้ลี้ภัยได้ชัดเจนมากขึ้น แต่ปัญหานี้ไม่ได้เกิดกับประเทศยูเครนเพียงแห่งเดียว ประเทศอื่นๆ อย่างเช่นอัฟกานิสถาน, ซีเรีย, ซูดาน, เมียนมาร์ หรือประเทศอื่นๆ ต่างมีเหตุการณ์ที่ย่ำแย่ลงทั้งนั้น เราจึงเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับระบบช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นของเราโดยการเปลี่ยนจากโครงการแบบแยกส่วนเป็นมาตรการเชิงรุกที่มีความยั่งยืน เพื่อให้ง่ายต่อผู้คนที่ต้องการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
การส่งมอบสินค้าที่จำเป็นให้กับผู้คนที่ต้องการมากที่สุด นั่นคือหัวใจหลัก
Goods for Good เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นให้กับผู้คนและชุมชนที่มีความเปราะบางทั่วทุกมุมโลก เราได้ไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ในสหราชอาณาจักรที่อยู่ด้านนอกตัวเมืองลอนดอนเพื่อเรียนรู้วิธีการและเหตุผลในการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมของพวกเขา
Rosalind Bluestone
Founder & CEO, Goods for Good
เมื่อแปดปีก่อน หลังจากทำงานให้องค์กรการกุศลในอังกฤษมา 12 ปี Rosalind ได้ก่อตั้งองค์กร NGO ของตนเอง ซึ่งทุกวันนี้เป็นองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในกว่า 25 ประเทศ
สำนักงานใหญ่ของ Goods for Good อยู่ย่านที่พักอาศัยในเมืองวอตฟอร์ดทางตะวันตกเฉียงเหนือของลอนดอน ในฐานะ NGO ภารกิจของพวกเขาคือการส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ และสินค้าที่เหมาะสมเพื่อช่วยเหลือภูมิภาคที่ประสบปัญหาความยากจนและภัยธรรมชาติ รวมถึงผู้ที่ต้องสูญเสียบ้านเรือนอันเนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธ
เมื่อพูดถึงคำว่า “ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม” ทำให้ต้องนึกถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว เหตุการณ์นั้นถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่เรื่องความสำคัญในการติดป้ายบนกล่อง มีสิ่งของบรรเทาทุกข์ใส่ลังกระดาษซึ่งภายในมีทั้งอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และเสื้อผ้าจากทั่วทุกมุมโลกส่งมายังพื้นที่ประสบภัยจำนวนมาก แต่กล่องส่วนใหญ่ไม่มีป้ายติดไว้ว่าข้างในมีอะไรทำให้ต้องเอาไปกองสุมรวมกันในโรงยิมของโรงเรียน แล้วให้อาสาสมัครช่วยคัดแยกทีละกล่อง
ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ 160 ตัวสำหรับเด็กกำพร้า 160 คน
Rosalind Bluestone ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ Goods for Good บอกไว้ว่า “หลักการพื้นฐานในการส่งสิ่งของไปยังพื้นที่ประสบภัยนั้นไม่มีอะไรมาก แค่ต้องส่งสิ่งของสำคัญไปให้ผู้ที่ขาดแคลนของสิ่งนั้นมากที่สุดให้ได้ ทุกครั้งงานของเราจะเริ่มด้วยการหาข้อมูลว่าใครขาดแคลนอะไรมากที่สุด ถ้าเราส่งสิ่งของที่ผู้ประสบภัยนำไปใช้ไม่ได้ สิ่งของเหล่านั้นก็จะกลายเป็นขยะ สิ้นเปลืองพลังงานที่ใช้ขนส่ง และสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปโดยเปล่าประโยชน์ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม หากคุณส่งบรรจุภัณฑ์ที่ไม่มีป้ายบอกซึ่งไม่มีทางรู้ได้ว่าข้างในมีอะไรจนกว่าจะแกะกล่องดู คุณจะทำให้งานบรรเทาทุกข์ยุ่งยากขึ้นอย่างไม่จำเป็น เพิ่มงานให้กับอาสาสมัครและผู้แจกจ่ายสิ่งของเหล่านั้นโดยใช่เหตุ”
สำนักงานใหญ่ของ Goods for Good ไม่ได้มีพื้นที่ใหญ่โตมากมาย ที่นี่เคยเป็นบริษัทที่จัดการด้านวัสดุก่อสร้างมาก่อน ในบริเวณสำนักงานจึงมีคลังสินค้าขนาดเล็กตั้งอยู่ สำนักงานใหญ่แห่งนี้เก็บสต็อกสิ่งของไว้เพียงเล็กน้อย แล้วพวกเขาส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์กว่าห้าหมื่นรายการที่ยูนิโคล่ส่งมอบไปยังโปแลนด์จากที่ไหน
“เราส่งของจากคลังสินค้าสองแห่งในภาคเหนือของอังกฤษและจากคลังสินค้าอีกแห่งในเนเธอร์แลนด์ เสื้อผ้าของยูนิโคล่ถูกส่งมาถึงคลังสินค้าที่ประเทศเนเธอร์แลนด์บนพาเลท 109 ชุด โดยในแต่ละพาเลทจะมีลังกระดาษใบใหญ่อยู่ทั้งหมด 18 ลัง เราจะส่งสินค้าจากที่นั่นไปยังประเทศให้ถึงประเทศโปแลนด์ด้วยวิธีที่รวดเร็วที่สุด”
ในวันที่เราไปเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของ Goods for Good ที่คลังสินค้าก็กำลังวุ่นกับการเตรียมส่งเสื้อผ้าเด็กจากยูนิโคล่ ซึ่งรวมถึงการตัดป้ายออกเพื่อป้องกันการนำไปจำหน่ายซ้ำ จากนั้นจึงขนของขึ้นรถบรรทุกเพื่อส่งไปที่เวลส์ให้กับผู้ลี้ภัยชาวยูเครนนับร้อยราย งานทั้งหมดนี้ทำโดยอาสาสมัคร ผู้ชายคนหนึ่งที่มีรอยยิ้มแสนอบอุ่นบนใบหน้ากำลังขนกล่องสินค้าขึ้นรถบรรทุก
ในวันที่เรามาเยี่ยมชม มีอาสาสมัครมากมายเดินทางมาจากเวลส์เพื่อรับเสื้อผ้าเด็กของยูนิโคล่ พนักงานของยูนิโคล่ก็เข้ามาประสานงานเพื่อให้การขนถ่ายสินค้าราบรื่น ภาพตรงกลางเป็นซิมการ์ดความจุ 20GB จำนวนหนึ่ง
“สหราชอาณาจักรยินดีรับเด็กกำพร้าจากสงครามในยูเครนจำนวน 160 คน พวกเขาต้องการเสื้อผ้าแน่นอน แต่เราอยากทำอะไรได้มากกว่านั้น เลยถามไปยังศูนย์การค้าชื่อดังที่เราเป็นพันธมิตรด้วยมานานว่าต้องการบริจาคตุ๊กตาหมีเทดดี้สัก 160 ตัวหรือไม่ หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีหมีเทดดี้จำนวนสองเท่าจากที่เราขอไปส่งถึงที่”
เราสามารถช่วยเหลือในปัญหาเรื่องความหนาวเย็นกับความอดอยากได้ แต่ไม่มีทางที่จะหาอะไรมาทดแทนการสูญเสียพ่อแม่ได้ ถึงอย่างนั้น หมีเทดดี้ก็มีขนาดพอเหมาะให้เด็กได้กอดเล่นในยามเหงา สิ่งของบางอย่างมีความสำคัญมากกว่าแค่ทางกายภาพ ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในความคิดของ Rosalind มุ่งเน้นการช่วยเหลือในด้านนี้ด้วย ภาพตัวอย่างคือซิมการ์ดที่ใช้กับโทรศัพท์มือถือ
“เมื่อก่อนมันยังไม่มีของอะไรแบบนี้นะ แต่เดี๋ยวนี้คือของที่ต้องแพ็คใส่ไปด้วยถ้าเดินทางข้ามพรมแดน เราได้รับซิมการ์ดฟรี 8,500 ชิ้นจากบริษัทโทรคมนาคม ชาวยูเครนที่ได้รับสิ่งนี้จากเราจึงดีใจกันมาก”
การระดมทุนคือความท้าทายหลัก
มอลโดวาเป็นอีกหนึ่งประเทศที่รับผู้ลี้ภัยจากยูเครนได้ชื่อว่าเป็น “ประเทศที่ยากจนที่สุด” ในทวีปยุโรป แต่ Goods for Good ก็ได้ให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ชาวมอลโดวาด้วยเช่นกัน
เราจึงได้ถามคำถามปิดท้ายกับ Goods for Good ว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นที่สุดตอนนี้
“การระดมทุนคือความท้าทายหลักของเรา พอมีคนที่ได้รับผลกระทบจากความยากจน ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีการใช้อาวุธเพิ่มมากขึ้น เราจำเป็นต้องส่งสิ่งของช่วยเหลือไปยังหลายพื้นที่มากขึ้นเช่นกัน ทำให้เราต้องขยายพื้นที่คลังสินค้าของเรา เนื่องจากเป็นองค์กรการกุศลที่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน เราจึงมีเงินทุนจำกัดและไม่สามารถรับมือกับการขอรับความช่วยเหลือที่เพิ่มมากขึ้นได้ทั้งหมด
แต่ความช่วยเหลือจากกลุ่มธุรกิจและองค์กรที่เป็นพันธมิตรของเราทำให้เราก้าวมาไกลถึงตรงนี้ได้ แต่สถานการณ์ของเรานั้นเป็นแค่เรื่องเล็กเมื่อเทียบกับผู้คนที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือจากเราอยู่"
มีผู้คนนับล้านทั่วทุกมุมโลกที่ต้องพลัดพรากจากถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว
วิกฤตการณ์ในยูเครนจึงเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผู้คนที่ต้องพลัดถิ่นในระดับที่สูงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อมีผู้คนต้องหลบหนีออกมาจากถิ่นฐานของตัวเองมากขึ้นในระดับที่น่าเป็นห่วงเช่นนี้ เราสามารถให้ความช่วยเหลือด้วยวิธีใดได้บ้าง
Ritsu Nacken
รองผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) ตัวแทนประเทศญี่ปุ่น
หลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคริสเตียนนานาชาติ (International Christian University: ICU) Ritsu Nacken ทำงานให้กับ NGO ก่อนจะศึกษาต่อจนจบระดับปริญญาโทสาขาการจัดการองค์กรไม่หวังผลกำไร/มหาชนที่มหาวิทยาลัยนิวสคูล (New School) หลังจากนั้นเธอได้ทำงานให้กับหน่วยงานของสหประชาชาติหลายแห่ง ทั้งในฟิจิ อิตาลี เอธิโอเปีย เวียดนาม และศรีลังกาเป็นเวลากว่ายี่สิบปี Ritsu เข้ามารับตำแหน่งปัจจุบันเมื่อปี 2021
ทุกวันนี้มีผู้คนมากกว่าหนึ่งร้อยล้านคนที่ต้องสูญเสียบ้านไปเพราะเหตุการณ์ความขัดแย้งและการเรียกร้องสิทธิที่รุนแรง ในช่วงยี่สิบปีที่ผ่านมามีจำนวนผู้ลี้ภัยเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และการแก้ปัญหาเป็นไปได้ยากยิ่งกว่าเดิม เพราะสถานการณ์ที่ผู้พลัดถิ่นต้องเผชิญร้ายแรงกว่าเดิมมาก
เหตุผลที่ทำให้จำนวนผู้ลี้ภัยเพิ่มสูงขึ้นอาจแตกต่างกันไปแต่ละกรณี แต่ถ้ามองดูในภาพรวมจะเห็นได้ว่าผู้คนในประเทศอย่างอัฟกานิสถาน ซีเรีย เอธิโอเปีย เวเนซูเอลา รวมถึงอีกหลายประเทศต่างก็ประสบปัญหาความรุนแรงมาเป็นเวลาหลายปี และความช่วยเหลือที่พวกเขาต้องการนั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังซ้ำเติมให้สถานการณ์ของพวกเขาแย่ลงไปอีก
อีกหนึ่งเรื่องที่น่ากังวลคือคุณค่าที่เคยยึดถือกันทั่วไปอย่าง “ความสงบสุข” และ “สิทธิมนุษยชน” กำลังเสื่อมถอยลงในสังคมเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มเปราะบางที่อยู่ในอันตรายโดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงถูกบีบบังคับให้ต้องหลบหนี
ปัจจัยที่เกี่ยวโยงถึงกันนี้ทำให้โลกของเราสูญเสียเสถียรภาพ ยุ่งเหยิง และทำให้สถานการณ์ของผู้ลี้ภัยยืดเยื้อขึ้นไปอีก ความพยายามของชุมชนนานาชาติทั่วโลกจึงไม่สามารถไล่ตามปัญหาเหล่านี้ได้ทัน ทำให้จำนวนผู้พลัดถิ่นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือสถานการณ์เลวร้ายที่เรากำลังเผชิญอยู่
บทบาทสำคัญของชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และผู้คน
แน่นอนว่าแต่ละประเทศจำเป็นต้องตั้งนโยบายเกี่ยวกับผู้ลี้ภัยเป็นของตนเอง แต่สิ่งที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบากคือการที่ต่างฝ่ายต่างดำเนินการแยกกัน จนอาจทำให้เราไม่สามารถก้าวไปบนเส้นทางการแก้ไขปัญหาที่มีความยั่งยืนอย่างแท้จริงได้ การที่ผู้พลัดถิ่นจะสามารถกอบกู้ชีวิตกลับมาได้นั้นต้องอาศัยความร่วมมือและความเข้าใจจากทั้งชุมชนท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และผู้คนในชุมชนนั้น ผู้พลัดถิ่นจะต้องรู้สึกและต้องได้รับการยอมรับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่พวกเขาไปพึ่งพิง
หนึ่งในบทบาทสำคัญของ UNHCR คือการวางกรอบแนวทางการบรรเทาทุกข์ผู้ลี้ภัย หรือประสานงานให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ถูกบังคับให้ต้องพลัดถิ่น ในขั้นแรกเราจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่แล้วตั้งศูนย์พักพิงฉุกเฉินพร้อมศูนย์ผู้ลี้ภัยโดยด่วนเพื่อให้พวกเขามีที่อยู่อาศัย จากนั้นจึงแจกจ่ายข้าวของเครื่องใช้พื้นฐานให้พวกเขาได้ใช้ชีวิตเหมือนอยู่ที่บ้าน แล้วเรายังมอบเงินช่วยเหลือเพื่อให้นำไปใช้จ่ายในการดำรงชีวิตแต่ละวันอีกด้วย โครงการนี้ดำเนินการด้วยความร่วมมือจากองค์กรเพื่อมนุษยธรรมอื่นๆ อีกกว่า 140 หน่วยงาน เพื่ออาศัยความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ของ NGO และอาสาสมัครที่หยั่งรากลึกอยู่ในวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ
การสร้างความสนใจเรื่องโอกาสที่จะเกิดการค้ามนุษย์และการแสวงหาประโยชน์ทางเพศเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญของเราเช่นกัน ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรเราจึงสามารถให้คำปรึกษาแก่เด็กๆ ที่ได้รับความบอบช้ำทางจิตใจจากเหตุการณ์ความขัดแย้งหรือตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรง จัดตั้งศูนย์เพื่อการเยียวยาจิตใจ และให้คำปรึกษาโดยมีการคำนึงถึงเด็กทุพพลภาพด้วย
นี่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวในแดนที่ห่างไกล
หน่วยงานธุรกิจหลายแห่งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหรือส่งมอบข้าวของเครื่องใช้ เช่น เสื้อผ้าหรือเครื่องเรือนให้กับผู้ลี้ภัย ทางยูนิโคล่เองก็เร่งส่งมอบเสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ผู้ลี้ภัยเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นตั้งแต่ช่วงเดือนต้นๆ ของวิกฤติยูเครน นอกจากจะให้ความช่วยเหลือเป็นมูลค่ากว่า 1.1 พันล้านเยนแล้ว ยูนิโคล่ยังเปิดช่องทางให้ลูกค้าร่วมส่งความช่วยเหลือผ่านเรา เราจึงสามารถส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสิ่งที่ผู้ลี้ภัยต้องการสามารถเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ได้อยู่ตลอด การรับบริจาคจึงช่วยให้ระบบการบรรเทาทุกข์มีความยืดหยุ่นอยู่เสมอ
วิกฤตการณ์ในยูเครนทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องผู้พลัดถิ่นมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เราหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้คนเห็นใจช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ลี้ภัยในทุกมุมโลก ไม่เพียงแต่ในยูเครนเท่านั้น ปัญหาผู้ลี้ภัยไม่ใช่เรื่องไกลตัวในแดนที่ห่างไกล พวกเราต้องร่วมกันหาทางช่วยเหลือผู้ที่ถูกสถานการณ์บังคับให้ออกจากถิ่นฐาน
เงินบริจาคของคุณช่วยให้เราระดมทุนเพื่อการบรรเทาทุกข์จากวิกฤติในยูเครนได้แล้วมากกว่า 19 ล้านเยน
เราขอขอบคุณความช่วยเหลือจากใจจริง ความช่วยเหลือทั้งหมดที่รวบรวมมาจากกล่องรับในร้านสาขาของยูนิโคล่และจียู รวมถึงช่องทางออนไลน์ จะถูกนำมาใช้ในโครงการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ลี้ภัยจากวิกฤตการณ์ในยูเครน ขอบคุณทุกคนสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้
เปลี่ยนอนาคตด้วยพลังของเสื้อผ้า
ในฐานะผู้ผลิตเสื้อผ้าซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ยูนิโคล่จะทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อยกระดับพลังของเสื้อผ้าให้สูงขึ้น เพื่อให้ผู้ขาดแคลนมีเสื้อผ้าสวมใส่ เราจึงขอให้ลูกค้านำไอเทมที่ไม่ใช้แล้วมาให้เรานำไปบริจาคให้กับผู้ลี้ภัยและผู้พลัดถิ่นภายในประเทศของตนทั่วโลก รวมถึงผู้คนในกลุ่มเปราะบางทางสังคมในประเทศและภูมิภาคที่มีร้านสาขาของเราอยู่
ส่งมอบเสื้อผ้าไปแล้วมากกว่า
46.19 ล้านชิ้น
ใน 79 ประเทศและภูมิภาค (31 สิงหาคม 2021)
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในแอฟริกา | 33,957,600 |
---|---|
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในเอเชีย | 7,349,900 |
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในตะวันออกกลาง | 3,039,600 |
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในยุโรป | 1,256,400 |
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในอเมริกาเหนือ | 324,100 |
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในอเมริกาใต้ | 230,600 |
เสื้อผ้าที่ส่งมอบแล้วในโอเชียเนีย | 36,700 |
UNIQLO UT PEACE FOR ALL จะนำผลกำไร 100% จากการจำหน่ายเสื้อยืดไปช่วยเหลือผู้คนทั่วโลก มาร่วมขับเคลื่อนโลกไปด้วยกัน
โลกใบนี้กำลังต้องการความสงบสุขมากกว่าที่เคย เสื้อยืดเรียบง่ายหนึ่งตัวก็มีส่วนช่วยให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้นได้ ยูนิโคล่ขอแนะนำโปรเจกต์ UNIQLO UT PEACE FOR ALL: คอลเลคชันเสื้อยืดที่ออกแบบลวดลายโดยผู้มีชื่อเสียงด้านศิลปะ การออกแบบ วรรณกรรม วิทยาศาสตร์ และการกีฬาระดับโลก
Tadao Ando
Rei Inamoto
Wim Wenders
Kosuke Kawamura
Shingo Kunieda
Kashiwa Sato
Adam Scott
HANA TAJIMA
Kei Nishikori
Ayumu Hirano
PEANUTS
Ines De La Fessange
Keith Haring
Haruki Murakami
Shinya Yamanaka
Lisa Larson
Gordon Reid
Christophe Lemaire
- แบบไทย
- English