UNIQLO and Our Town

vol.04[Paris]

    Illustrations by Adrian Hogan
    Photography by Mari Shimmura
    Text & Coordination by Masae Takanaka

ยูนิโคล่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และนี่คือเรื่องราวข่าวสารจากปารีส
ซึ่งเราได้เปิดให้บริการสาขาใหม่ที่ดุจดั่งผลงานศิลปะไปเมื่อฤดูใบไม้ร่วงในปี 2021

SWIPE

  1. 1
  2. 22
  3. 32
  4. 4
  5. 5
  6. 6
  7. 7
  8. 8
  9. 9
  10. 10

ร้านสาขากรุงปารีสในสไตล์โรงละครโอเปร่าซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2009 รวมถึงสาขาบนถนน Rivoli ซึ่งเปิดให้บริการในปีที่ผ่านมานั้นล้วนตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีสใกล้กับโรงละครโอเปร่า ทั้งยังสามารถพบกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์และสวนปาแล-รัวยาล (Palais-Royal) ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่ไกล

ครั้งนี้เราจึงขอโชว์ให้เห็นถึงสถานที่น่าสนใจที่บรรณาธิการนิตยสารแฟชั่นสำหรับชาวปารีส l’étiquette แนะนำภายใต้ความร่วมมือกับบุคคลต่างๆ ที่ได้กล่าวถึงในSalut, Paris!เพียงแค่ออกมาเพลิดเพลินไปกับการดื่มกาแฟคั่วสดใหม่ในยามเช้า แล้วเดินท่องไปตามเส้นทางที่ยังคงงดงามไม่เปลี่ยนแม้กาลเวลาจะล่วงเลยผ่านไปกว่าสองศตวรรษ ตั้งแต่ร้านอาหารสุดคลาสสิก ร้านหนังสือเก่าสุดตระการตา ไปจนถึงตลาดที่เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งหมดนี้ล้วนแต่ชวนให้เดินทอดน่องออกสำรวจมหานครอันแสนมีชีวิตชีวาแห่งนี้

UNIQLO Rivoli

เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา เราได้เปิดให้บริการสาขาใหม่บน Rue de Rivoli หนึ่งในถนนสายหลัก ณ กรุงปารีส สาขานี้ตั้งอยู่หัวมุมห้างสรรพสินค้า La Samaritaine อันโด่งดัง ซึ่งถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่หลังจากปิดปรับปรุงมายาวนานกว่า 16 ปี แต่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของตัวอาคารด้านหน้าที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตเดโคราวกับว่าอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1930 โดยเราได้ร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดในสร้างสรรค์พื้นที่ภายในให้เปี่ยมด้วยแฟชั่นและศิลปะ แม้กระทั่งชั้นสามของตึกก็ยังมีพื้นที่สำหรับอ่านหนังสือชวนให้เพลิดเพลินไปกับหนังสือศิลปะและหนังสือภาพมากมายที่ได้รับคัดเลือกโดยร้านหนังสือท้องถิ่นชื่อดัง พร้อมกับมีโซฟาให้นั่งเล่น

67 Rue de Rivoli, 75001 Paris

column 1

เดินเที่ยวเล่นในวันสบายๆ!

ตลาด Saint-Honoré

Place du Marché Saint-Honoré, 75001 Paris

ทุกๆ วันในมหานครปารีสแห่งนี้จะมีตลาดเปิดขายสินค้าไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งให้ชาวเมืองได้ออกมาจับจ่ายใช้สอย ณ ตลาด Saint-Honoré แห่งนี้ คุณจะพบกับอาคารสไตล์โมเดิร์นสร้างด้วยหลังคากระจกซึ่งเป็นผลงานของสถาปนิกนามว่า Ricardo Bofill โดยจะมีตลาดสดในทุกๆ วันพุธและวันเสาร์ ที่ตลาดแห่งนี้คุณสามารถเลือกซื้อได้ตั้งแต่ผลิตผลและชีสหลากชนิดจากจังหวัดต่างๆ ไปจนถึงขนมปังและหอยนางรมสดเป็นอาหารว่าง ทั้งยังมีดอกไม้ตามฤดูกาล นอกจากนี้ในทุกวันพฤหัสบดีแรกของเดือน คุณจะพบกับตลาดนัดที่เน้นขายของเก่าบริเวณลานสาธารณะที่เคยเป็นตลาดหลักทรัพย์ประจำกรุงปารีส แม้จะเป็นเพียงตลาดขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยสิ่งของล้ำค่ามากมายไม่ว่าจะเป็นแจกันสุดหรูหรือของเล่นดีบุก จึงควรค่าแก่การเยี่ยมชม

ตลาดนัดขายของเก่าที่ Place de la Bourse

Place de la Bourse 75002 Paris

ยามเช้า ณ กรุงปารีส

Café Verlet

Cafe

ร้านกาแฟเก่าแก่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1880 และเป็นร้านยอดนิยมของชาวพื้นเมืองปารีส ว่ากันว่าเป็นร้านที่เก่าแก่ที่สุดในปารีสที่นำเข้าเมล็ดกาแฟจากอเมริกาใต้ และอเมริกากลางมาคั่วเองในร้านด้วยวิธีธรรมชาติ เมนูของทางร้านประกอบด้วยเมล็ดกาแฟกว่า 30 สายพันธุ์ ทั้งยังมีใบชาอีกกว่า 45 ชนิด เติมพลังจากอาหารเช้าสุดคลาสสิกตามแบบฉบับปารีสด้วย Oeuf à la Coque (ภาพซ้าย) ซึ่งเสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งและไข่ลวกที่สามารถตอกทานได้เลย เมนูนี้นิยมสั่งคู่กับกาแฟดริบเสิร์ฟในหม้อต้มกาแฟ Du Belloy พร้อมฟิลเตอร์สำหรับใช้คู่กันที่ทางร้านใช้มาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1800

256 Rue St Honoré, 75001 Paris

256 Rue St Honoré, 75001 Paris

Galerie Véro-Dodat

Shopping Arcade

แหล่งการค้านี้ถือเป็นศูนย์กลางของการท่องเที่ยวเมืองปารีส สิ่งที่ผู้คนนิยมเรียกกันว่า "เส้นทาง" สายนี้อบอวลด้วยกลิ่นอายย้อนยุคไปถึงศตวรรษที่ล่วงเลย Galerie Véro-Dodat สร้างขึ้นในปี 1826 ด้วยโครงสร้างสไตล์นีโอคลาสสิก ปูพื้นด้วยกระเบื้องทรงข้าวหลามตัด ในสมัยรุ่งเรือง สถานที่แห่งนี้เคยเต็มไปด้วยร้านบูติก และแกลเลอรีให้เหล่านักเดินทางได้พักระหว่างรอรถม้า และไม่มีที่ไหนจะดีไปกว่าระเบียงของ Le Café de l’Epoque ที่ให้คุณได้ชื่นชมความเป็นมาของผู้คนบนเส้นทางสายนี้

19 rue Jean-Jacque Rousseau - 2 rue du Bouloi 75001 Paris

19 rue Jean-Jacque Rousseau - 2 rue du Bouloi 75001 Paris

Bourse de Commerce -
Pinault Collection

Museum

นักธุรกิจชาวฝรั่งเศสนามว่า François Pinault หนึ่งในนักสะสมผลงานศิลปะชื่อดังของโลกได้บูรณะอาคาร Bourse de commerce ซึ่งมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ให้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ผู้เข้าชมสามารถชื่นชมคอลเลคชันส่วนตัวสุดอลังการและประติมากรรมต่างๆ ที่สร้างสรรค์จากฝีมือของ Urs Fischer, ผลงานสร้างอารมณ์ขันโดย Maurizio Cattelan ตลอดจนภาพบุคคลจาก Peter Doig ทั้งยังมี Tadao Ando เป็นผู้ทำหน้าที่ออกแบบภายใน เชิญชวนให้คุณใช้เวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศภายใต้ห้องโถงอันน่าทึ่งที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้ผสานรวมแสงและเงาเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

2 Rue de Viarmes, 75001 Paris

2 Rue de Viarmes, 75001 Paris

column 1

เดินเที่ยวเล่นในวันสบายๆ!

ตลาด Saint-Honoré

Place du Marché Saint-Honoré, 75001 Paris

ทุกๆ วันในมหานครปารีสแห่งนี้จะมีตลาดเปิดขายสินค้าไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งให้ชาวเมืองได้ออกมาจับจ่ายใช้สอย ณ ตลาด Saint-Honoré แห่งนี้ คุณจะพบกับอาคารสไตล์โมเดิร์นสร้างด้วยหลังคากระจกซึ่งเป็นผลงานของสถาปนิกนามว่า Ricardo Bofill โดยจะมีตลาดสดในทุกๆ วันพุธและวันเสาร์ ที่ตลาดแห่งนี้คุณสามารถเลือกซื้อได้ตั้งแต่ผลิตผลและชีสหลากชนิดจากจังหวัดต่างๆ ไปจนถึงขนมปังและหอยนางรมสดเป็นอาหารว่าง ทั้งยังมีดอกไม้ตามฤดูกาล นอกจากนี้ในทุกวันพฤหัสบดีแรกของเดือน คุณจะพบกับตลาดนัดที่เน้นขายของเก่าบริเวณลานสาธารณะที่เคยเป็นตลาดหลักทรัพย์ประจำกรุงปารีส แม้จะเป็นเพียงตลาดขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยสิ่งของล้ำค่ามากมายไม่ว่าจะเป็นแจกันสุดหรูหรือของเล่นดีบุก จึงควรค่าแก่การเยี่ยมชม

ตลาดนัดขายของเก่าที่ Place de la Bourse

Place de la Bourse 75002 Paris

ยามบ่าย

Bouillon Chartier

Restaurant

พี่น้อง Chartier ได้ก่อตั้งร้านอาหารแสนเรียบง่ายแห่งนี้ขึ้นเมื่อปี 1896 โดยตั้งอยู่บริเวณที่เคยเป็นสถานีรถไฟ เมื่อย่างเท้าเข้าไปแล้ว สถานที่นี้จะพาคุณนึกย้อนไปยังยุคสมัยแห่งความศิวิไลซ์ และสุขนิยมในยุโรป (Belle Époque) มีบริกรที่วุ่นวายกับการรับออเดอร์เดินทั่วห้องอาหาร พร้อมให้บริการอาหารพื้นเมืองฝรั่งเศสหลากหลายเมนู เช่น Blanquette de Veau (ภาพซ้าย) ในราคาย่อมเยา จึงเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางตั้งแต่เปิดร้านมาเป็นเวลายาวนานกว่า 120 ปี

7 Rue du Faubourg Montmartre, 75009 Paris

7 Rue du Faubourg
Montmartre, 75009 Paris

Dary's

Antique Shop

ร้านเครื่องประดับโบราณแห่งนี้เปิดกิจการมาอย่างยาวนานกว่า 4 ชั่วอายุคน แม้อาจต้องใช้ความกล้าหาญที่จะกดกริ่งและย่างเก้าเข้าไปในร้าน แต่รับประกันได้ว่าคุ้มค่าอย่างแน่นอน ในบรรดาอัญมณีล้ำค่าและทองคำ 24 กะรัต (ภาพบนขวาคือเครื่องรางราคาเริ่มต้นที่ 950 ยูโร) ยังมีสินค้าทำจากเงินในราคาเพียง 30 ยูโร Marc Beaugé หัวหน้าบรรณาธิการของ l’étiquette ได้กล่าวไว้ว่า "นี่คือร้านที่ผมได้พบกับจี้เม็ดโปรด"

362 Rue St Honoré, 75001 Paris

362 Rue St Honoré, 75001 Paris

Librairie Jousseaume

Book Shop

ร้านหนังสือชื่อดังแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Galerie Vivienne ซึ่งเป็นเส้นทางอันเลื่องชื่อในกรุงปารีส โดยทางร้านดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1826 มีจำหน่ายตั้งแต่หนังสือโบราณเล่มหนารวมไปถึงคอลเลคชันเก่าแก่ที่ประกอบด้วยผลงานของ Verlaine, วรรณกรรมคลาสสิก, หนังสือภาพที่บรรยายการใช้ชีวิตในปารีส ตลอดจนหนังสือศิลปะต่างๆ นานา ให้คุณได้เลือกซื้อโปสการ์ดภาพมากมายที่ผู้จัดการร้าน (ภาพขวา) ได้ให้นิยามไว้ว่า "เป็นของขวัญล้ำค่าสำหรับเพื่อนฝูงทางบ้านขณะออกสำรวจนครปารีส" นอกจากนี้ กระเป๋าสะพายที่มีภาพวาดหน้าร้านก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน

45-46-47 Galerie Vivienne, 75002 Paris

45-46-47 Galerie Vivienne, 75002 Paris

ยามเย็น

Châteaux Voltaire

Hotel

โรงแรมระดับ 5 ดาวสุดหรูแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2021 ใช้เวลาเดินเพียง 2 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Pyramides พื้นที่ภายในได้รับการออกแบบโดยคู่หู Festen ซึ่งเป็นสองนักออกแบบชื่อดังชาวปารีส โดยมี Franck Durand ผู้อยู่เบื้องหลังนิตยสาร Holiday ทำหน้าที่อาร์ตไดเรกเตอร์ การตกแต่งภายในห้องชวนให้รำลึกถึงความหลัง ทั้งยังให้ความรู้สึกแปลกใหม่ไปพร้อมๆ กันด้วยโทนสีคลุมเครือซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ของ Claude Sautet ในสไตล์โมเดิร์นปารีเซียง โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องมีเวลาทั้งคืน เพียงแค่นัดพบผู้คนที่ล็อบบี้ของโรงแรมหรือดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่ม Aperol ในบาร์

55-57 Rue Saint-Roch, 75001 Paris

column 2

พกปารีสใส่กระเป๋ากลับบ้าน!

คุกกี้จากร้าน Poilâne

คุกกี้เนยฝรั่งเศสจากร้านเบเกอรี่แนวย้อนยุคแห่งนี้ทั้งรสชาติดีและดูเรียบง่าย อร่อยจนหยุดไม่ได้ มีจำหน่ายทั้งแบบสดใหม่จากหน้าร้านหรือแบบห่อใส่กล่องของขวัญในศูนย์อาหารและเครื่องดื่มที่ห้างสรรพสินค้า Galeries Lafayette ในราคา 7.90 ยูโร

สโนว์โกลบจากโรงละครโอเปร่า

ร้านขายของที่ระลึกที่โรงละครโอเปร่า Palais Garnier เปรียบดังขุมทรัพย์ที่เต็มไปด้วยสินค้าออริจินอลน่ารักๆ มากมาย ของฝากอย่างสโนว์โกลบนี้มีขนาดพอดีกับฝ่ามือ ราคา 6.95 ยูโร

Papier d’Arménie

เครื่องหอมทำจากกระดาษที่ผู้คนต่างมองเห็นถึงคุณค่ามาตั้งแต่ปี 1885 เพียงฉีกเป็นแผ่นออกมา พับให้มีรูปทรงเหมือนหีบเพลง แล้วจุดไฟที่ส่วนปลายเพื่อปลดปล่อยกลิ่นหอมวานิลลาแสนอ่อนโยน ทั้งยังมาพร้อมด้วยคุณสมบัติระงับกลิ่น จึงมักถูกนำไปใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้า ซองใส่บัตร หรือจดหมาย มาในรูปแบบสมุดพกเล่มเล็ก 36 แผ่นราคา 2.20 ยูโร

*ราคาและข้อมูลทั้งหมดเป็นราคาและข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2022

แชร์หน้านี้