Hello, Jil
Jil Sander ดีไซเนอร์ ผู้สร้างสรรค์ผลงานในมิลานแฟชั่นวีคตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติสำหรับการออกแบบที่มองการณ์ไกลของเธอ เป็นเวลา 11 ปีหลังจากคอลเลคชัน +J ของเธอได้เปิดตัวร่วมกับยูนิโคล่ +J กำลังกลับมาที่ยูนิโคล่อีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงนี้
อะไรทำให้เธอเลือกเส้นทางของการออกแบบแฟชั่น? อะไรคือแรงบันดาลใจสำหรับไลน์ +J ล่าสุดของเธอ?
เราถามคำถาม Jil 21 ข้อ ตั้งแต่ปรัชญาไปจนถึงกิจวัตรประจำวันของเธอ สิ่งที่เธอโปรดปราน และชีวิตในการทำงานของเธอ
Jil Sander @ Peter Lindbergh
Jil Sander ดีไซเนอร์ ผู้สร้างสรรค์ผลงานในมิลานแฟชั่นวีคตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 ซึ่งประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติสำหรับการออกแบบที่มองการณ์ไกลของเธอ เป็นเวลา 11 ปีหลังจากคอลเลคชัน +J ของเธอได้เปิดตัวร่วมกับยูนิโคล่ +J กำลังกลับมาที่ยูนิโคล่อีกครั้งในฤดูใบไม้ร่วงนี้
อะไรทำให้เธอเลือกเส้นทางของการออกแบบแฟชั่น? อะไรคือแรงบันดาลใจสำหรับไลน์ +J ล่าสุดของเธอ?
เราถามคำถาม Jil 21 ข้อ ตั้งแต่ปรัชญาไปจนถึงกิจวัตรประจำวันของเธอ สิ่งที่เธอโปรดปราน และชีวิตในการทำงานของเธอ
Q1. คุณจะทำอะไรเป็นอย่างแรกหลังตื่นนอน แล้วคุณมีกิจวัตรอะไรที่ต้องทำทุกวันหรือไม่
ฉันมีกิจวัตรแบบง่ายๆ แค่เปิดหน้าต่างทุกบาน ไปนั่งสมาธิและเล่นโยคะ ส่วนตอนเช้าฉันจะชอบดื่มกาแฟร้อนชงจากเครื่องเฟรนซ์เพรส
Q2. อะไรบ้างที่คุณขาดไม่ได้ในชีวิตนี้
ผลงานรวมบทกวีไฮกุของ Kobayashi Issa ฉบับแปลสองภาษาโดย Lewis Mackenzie ฉันต้องมีไว้ติดตัวในการเดินทางอยู่บ่อยๆ
Q3. ทัศนียภาพธรรมชาติทางตอนเหนือของเยอรมนีมีความเชื่อมโยงกับตัวคุณ (หรืองานดีไซน์ของคุณ) อย่างไรบ้าง
ฉันโตขึ้นในฮัมบูร์กช่วงที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม ประสบการณ์ช่วงแรกๆ ของฉันจึงไม่ใช่เรื่องของธรรมชาติ แต่ฮัมบูร์กมีเส้นทางเดินเรือที่เชื่อมต่อกับทะเลบอลติก รอบตัวฉันเองก็มีน้ำอยู่ทุกที่ เมืองท่าอย่างฮัมบูร์กนั้นมีทางน้ำและแม่น้ำเป็นจำนวนมากยิ่งกว่าเวนิส ความประทับใจแรกของฉันที่มีต่อธรรมชาติคือการเปลี่ยนสีของท้องฟ้าและภาพสะท้อนในน้ำ พอฉันโตขึ้น เราก็ย้ายไปอยู่ในชนบทไม่ไกลจากฮัมบูร์ก ที่นั่นมีทัศนียภาพของไร่นาป่าเขาและทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดสายตา ภาพความเขียวชอุ่มปกคลุมทุกหนแห่งในฤดูใบไม้ผลิคือสิ่งที่ฉันโปรดปราน เนื่องจากตอนเหนือของเยอรมนีมีลมแรง จึงมักมีเมฆหิมะมาทำให้บรรยากาศเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันอยู่บ่อยๆ แสงอาทิตย์ของที่นั่นก็ขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์และความสว่าง โดยมีความใสสูงมากจนมองทะลุได้เกือบทุกอย่างเหมือนการเอ็กซ์เรย์ แสงแบบนี้มีอิทธิพลกับการตัดสินใจเลือกใช้ผ้าของฉันเสมอ ไม่เพียงแต่สีสันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคุณภาพของเนื้อผ้าอีกด้วย เพราะแสงแบบนี้หลอกตาเราไม่ได้ ทั้งยังมีการเน้นทุกรายละเอียดของงานทอ จึงมีเฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นที่จะผ่านการทดสอบ
Q4. คุณใช้เวลาสองปีในการศึกษาที่ UCLA สิ่งนั้นมีผลต่ออนาคตของคุณอย่างไร?
ฉันอายุแค่สิบแปดตอนที่ฉันไปอเมริกา ซึ่งได้มาจากประเทศที่ประสบภาวะซึมเศร้าหลังสงคราม สำหรับฉันแล้ว แคลิฟอร์เนียเป็นสถานที่แห่งการมองโลกในแง่ดี ฉันมีประสบการณ์กับอเมริกาเมื่อต้นทศวรรษที่หกสิบเศษกับแนวความคิดของการกบฏของเยาวชน ความรู้สึกสบายโดยรวมในชีวิตประจำวันสร้างความประทับใจอย่างมาก ชีวิตสบายขึ้นมาก และไม่มีใครตรวจสอบความตรงต่อเวลาของฉันเหมือนที่พ่อเคยทำในฮัมบูร์ก ฉันชอบพื้นที่ใกล้เคียงของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และกระแสความคิดสร้างสรรค์ซึ่งขยายจากฮอลลีวูด พื้นที่มีขนาดใหญ่ คุณสามารถขับรถเป็นชั่วโมง ฉันชอบสภาพอากาศ ชีวิตชายหาด และความคลั่งไคล้ของ Sunset Boulevard
Q5. แฟชั่นถูกเรียกว่าเป็นเหมือนเงาสะท้อนสำหรับไซท์ไกสต์ การออกแบบได้เปลี่ยนไปตั้งแต่ทศวรรษ 1960 บ้างหรือไม่ เมื่อตอนที่คุณเริ่มออกแบบแฟชั่นสตรี? มีการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่มองว่าเป็นการออกแบบที่จำเป็นหรือไม่?
ทุกยุคสมัยล้วนมีความจำเป็น ปลายศตวรรษที่สิบเก้ามีชุดรัดตัว ส่วนพวกฮิปปี้ในวัยหกสิบเศษมีกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ทุกวันนี้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพูดถึงสิ่งที่จำเป็น เพราะเราไม่ได้ใส่อะไรเลยนอกจากสิ่งเหล่านี้ อารมณ์เป็นแบบสบาย ๆ และความต้องการหลักคือความสบาย ดังนั้น เสื้อแจ็คเก็ตดาวน์ที่บรรจุได้จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งในปัจจุบัน เบามาก ทำให้เราอบอุ่นเมื่อจำเป็น และไม่กีดขวางการเคลื่อนไหวของเรา
Q6. คุณเคยได้รับการบอกเล่าสิ่งที่ลูกค้าจดจำเกี่ยวกับเสื้อผ้าของคุณหรือไม่?
ฉันประทับใจเสมอเมื่อลูกค้าบอกเราว่าพวกเขาชื่นชมการออกแบบของฉันที่ไร้กาลเวลา สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันคือการได้ยินว่าเสื้อผ้าเหล่านี้ให้ความแข็งแกร่งและมั่นใจแก่ผู้สวมใส่
Q7. ตอนเรียนที่ Krefeld School of Textiles ปรัชญาของ Bauhaus ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของคุณอย่างไรบ้าง
อาจารย์และศิษย์เก่าหลายคนจาก Bauhaus ได้ย้ายมาสอนที่ Krefeld School ส่วนบางคนก็ไปทำงานออกแบบอาคารอุตสาหกรรมหรือลวดลายให้กับอุตสาหกรรมสิ่งทอของ Krefeld อย่าง Mies van der Rohe ก็ทำงานในอุตสาหกรรมผ้าไหมท้องถิ่นมาตลอด โดยเฉพาะการออกแบบอาคารอันน่าทึ่งหลายแห่ง ตอนที่ฉันเข้าเรียนใหม่ๆ แนวทาง Bauhaus ยังแรงกล้าอยู่มาก และแน่นอนว่าฉันเองก็ได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมของ Bauhaus ด้วย จากการที่ฉันเชื่อมั่นในสัญชาติญาณของตัวเองในการลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นและให้ความสำคัญกับรูปแบบบริสุทธิ์ที่รังสรรค์มาเป็นอย่างดี
Q8. ช่วงเวลาที่คุณตัดสินใจทำงานในสายแฟชั่นนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
ฉันเริ่มทำงานเป็นบรรณาธิการแฟชั่นให้กับนิตยสารแฟชั่นฉบับหนึ่งของเยอรมนี โดยทำหน้าที่ดูแลจัดการเกี่ยวกับการถ่ายแบบแฟชั่น บ่อยครั้งที่ฉันมีปัญหากับการสร้างลุคให้ได้แบบที่คิดไว้ในใจ ในการปรับปรุงดีไซน์สิ่งต่างๆที่เราต้องถ่ายภาพ ฉันจะติดต่อผู้ผลิตเพื่อแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับคำแนะนำส่วนตัวและข้อเสนอให้เปลี่ยนแปลงดีไซน์บางจุด ฉันทำแบบนั้นอยู่เสมอจนกระทั่งครั้งหนึ่งมีผู้ผลิตเสื้อผ้าไฮเทครายใหญ่ติดต่อให้ฉันออกแบบผลงานเอง ในที่สุดฉันก็พบว่าตัวเองพอใจกับการสร้างสรรค์เสื้อผ้าขึ้นมาจริงๆ มากกว่าการถ่ายภาพแฟชั่นที่มีอยู่แล้วแต่ไม่ถูกใจตัวเอง
Q9. ถ้าต้องเลือกเสื้อผ้าที่ชอบ จะเลือกอะไร?
นั่นคงจะเป็นเสื้อยืดสีขาวที่พอดีตัว ฉันสวมใส่มันภายใต้ทุกอย่างและเก็บเสื้อผ้าของฉันด้วยตัวเลือกมากมาย จะต้องทำจากผ้าฝ้ายอียิปต์แบบบาง ตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพการงาน ฉันได้ออกแบบเสื้อยืดประเภทนี้และขาดไม่ได้
Q10. สีดำของเสื้อผ้ามีความหมายอย่างไรสำหรับคุณ
อย่างที่ฉันพูดถึงตอนเหนือของเยอรมนีไปเมื่อสักครู่นี้ สำหรับที่นั่นคำว่าผ้าสีดำนั้นดูจะไม่ดำสักเท่าไหร่ ฉันก็เลยเรียกสีดำแบบที่ตัวเองต้องการว่า "double black" ซึ่งจะไม่ซีดลงเมื่ออยู่คู่กับสีขาว และยังดูตัดกันอย่างชัดเจนอีกด้วย
SUPIMA Cotton Oversized Regular Collar Shirt (+J)
Q11. ดีไซน์ของคุณมีองค์ประกอบปลีกย่อยที่มีความพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นลวดลายหรือรูปทรง แล้วคุณเองมีกฎประจำตัวในการออกแบบหรือไม่
ฉันจะไม่วาดแบบ แต่จะออกแบบบนร่างกายรวมถึงการฟิตติ้งต่างๆ เพราะฉะนั้นฉันจึงมองเห็นทุกแง่มุมรวมถึงรูปทรง 3 มิติ ส่วนการฟิตติ้งก็จะทำให้เกิดรูปแบบและสัดส่วนแบบใหม่ขึ้นมา ดวงตาของฉันคือเครื่องมือที่ดีที่สุด ที่ช่วยให้ฉันมองเห็นว่ามีอะไรผิดปกติหรือล้าสมัย รวมถึงแหล่งที่มาของพลังและช่วงเวลาที่งานดีไซน์เริ่มดูสดใหม่ด้วย อีกสิ่งที่ฉันใส่ใจคือตัวลูกค้าและความต้องการที่หลากหลาย ซึ่งมีทั้งสรีระ ส่วนสูง และสีผิวแตกต่างกันไป ฉันจึงพยายามตีความคอลเลคชันโดยคำนึงถึงการผสมผสานแบบต่างๆ ซึ่งจะต้องมีความหลากหลายให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
Q12. จากคอลเลคชัน +J คุณมีวิธีผสมผสานวิสัยทัศน์ด้านการสร้างสรรค์ของตัวเองเข้ากับศักยภาพในการผลิตของยูนิโคล่อย่างไรบ้าง
ยูนิโคล่มีทั้งประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการผลิตอยู่มากมาย จึงมีความเป็นไปได้ในการผลิตอย่างไร้ขีดจำกัดและเปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ซึ่งรวมถึงระบบโลจิสติกส์ที่ราบรื่น การหลอมรวมวัฒนธรรมญี่ปุ่น และความเป็นเจ้าแห่งรายละเอียดอย่างแท้จริง
Q13. ช่วยบอกเราเกี่ยวกับ +J คอลเลคชันใหม่นี้สักหน่อย เช่นว่ามีอิมเมจเบื้องหลังดีไซน์แบบไหนบ้าง
ฉันไม่ใช่คนที่ทำงานโดยอาศัยแต่มโนภาพ เทพีแห่งแรงบันดาลใจหรือมู้ดบอร์ดเพียงอย่างเดียว แต่ความคิดสร้างสรรค์ของฉันมีพื้นฐานอยู่ที่การฟิตติ้งและการทดลองใช้ผ้าในแบบต่างๆ บางครั้งฉันก็ทั้งตัดทิ้งและปรับใช้แนวทางบางอย่าง ตามที่บอกไปว่าดวงตาของฉันผ่านการปรับมาอย่างดีให้สามารถมองเห็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้
Q14. ตั้งแต่ +J คอลเลคชันแรกในปี 2009 เป็นต้นมา จิตใจของคุณมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่
ทุกอย่างดูจะเปลี่ยนแปลงไปหมด ไม่เว้นแม้แต่วงการแฟชั่น เราต่างเบื่อหน่ายกับรูปแบบบางอย่างที่เคยข้องเกี่ยวด้วยในอดีตที่ตอนนี้ดูจะยาวนานเสียเหลือเกิน รวมถึงวัสดุและเทคนิคการผลิตก็มีการพัฒนาขึ้นเช่นกัน ผ้าในยุคสมัยใหม่ต่างต้องการโซลูชันใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงและลวดลายที่แตกต่างไป อาจจะไม่จำเป็นต้องถึงกับสะท้อนจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยออกมา แต่ตัวฉันเองรู้สึกว่าความมีระดับแบบร่วมสมัยคือสิ่งที่กำลังเป็นที่ต้องการ ฉันสัมผัสได้ดึงความดึงดูด ความตึงเครียดและความกลมกลืนของผู้คนในปัจจุบัน
Q15. การทำสวนเป็นชีวิตจิตใจของคุณมาโดยตลอด ไม่ทราบว่าการออกแบบพื้นที่ (ไม่ใช่เสื้อผ้า) ทำให้คุณมีมุมมองเกี่ยวกับโลกอย่างไรบ้าง
ในบางแง่แล้วก็ไม่มีความแตกต่างอะไร เพราะฉันเป็นพวกมีแนวคิดแบบนักสถาปัตย์อยู่แล้ว ฉันมุ่งค้นหาพลังแห่งความเป็นไปได้ในพื้นที่สามมิติอยู่เสมอ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉันได้สร้างสวนแบบอังกฤษขึ้นในพื้นที่ชนบท ซึ่งฉันเองก็เป็นแฟนตัวยงของนักออกแบบสวนผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Gertrude Jekyll ผู้มีส่วนสำคัญในวงการศิลปะหัตถกรรมร่วมสมัยเจ้าของผลงานออกแบบที่เข้าถึงง่ายซึ่งขีดเส้นแบ่งกับสวนแบบอังกฤษสไตล์คลาสสิกที่แฝงความตึงเครียดได้อย่างชัดเจน ส่วนสวนของฉันนั้นมีทั้งสองอย่างอยู่ในทัศนียภาพอันกว้างใหญ่กับบริเวณที่แยกเป็นสัดส่วน พุ่มกุหลาบกับผักสวนครัว และพื้นที่ว่างที่เหมาะกับการทำสมาธิ Gertrude Jekyll เคยเขียนไว้ว่า "สวนคือครูคนสำคัญ ที่สอนให้เรารู้จักอดทนและเฝ้ามองสิ่งต่างๆ อย่างระมัดระวัง รวมถึงความอุตสาหะและความมัธยัสถ์ และเหนือสิ่งอื่นใดคือสอนให้รู้จักความเชื่อใจอย่างเต็มที่"
Q16. ช่วยพูดถึงคนที่คุณชื่นชมหน่อย
ฉันชื่นชมสถาปนิกและนักออกแบบเวทีชาวอิตาเลียนชื่อ Lorenzo "Renzo" Mongiardino เป็นอย่างมาก น่าเศร้าที่เขาเสียชีวิตไปเมื่อปี 1998 ฉันมอบหมายให้เขาลงมือออกแบบภายในบ้านของฉันเองที่ฮัมบูร์ก และได้เรียนรู้หลายอย่างเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงาน คนที่มีความรู้เกี่ยวกับเทคนิคงานฝีมือรอบด้านโดยไม่ตามกระแสความโมเดิร์นอย่างเขาได้สร้างสรรค์สไตล์ประวัติศาสตร์นิยมอันเป็นแบบฉบับ และยังมีแนวคิดแบบไม่เอนเอียงไปตามยุคสมัยซึ่งทำให้เขาเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก Renzo ได้แนะนำให้ฉันก้าวออกจากความคิดของตัวเองแล้วเปิดรับความมหัศจรรย์ของสไตล์เรอเนสซองส์ ปรมาจารย์คนจริงอย่างเขามีแนวคิดในการตกแต่งภายในแบบเป็นขั้นเป็นต้นซึ่งเปี่ยมด้วยความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง เริ่มจากแผ่นไม้แกะสลักธีมเทพนิยายแบบโรงละครสมัยเรอเนสซองส์ในศตวรรษที่ 17 จากเวนิส ตามด้วยการสร้างสิ่งต่างๆ ไว้โดยรอบ ฉันได้เรียนรู้การเคารพและชื่นชมความอบอุ่นในตัว Renzo รวมถึงความรอบรู้ด้านประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งและความกล้าหาญของเขา นอกจากนี้เขายังสอนให้ฉันรู้ว่าทุกยุคสมัยในประวัติศาสตร์ล้วนมีความเป็นจริงเป็นของตัวเอง ตราบเท่าที่เรามองไปยังจุดสูงสุดและความหมายที่แท้จริงของช่วงนั้นๆ รวมถึงความเป็นแก่นแท้ที่ไม่ขึ้นกับกาลเวลาอีกด้วย
Q17. มีหนังสือเล่มไหนที่คุณประทับใจเป็นพิเศษไหม
ฉันรู้สึกผูกพันเป็นพิเศษกับวรรณกรรมรัสเซีย อย่างงานของ Dostojewski, Nabokov, Tolstoi, Tschechow, Gogol และ Achmatowa
Q18. คุณกำลังติดตามผลงานของดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นอยู่หรือเปล่า?
แน่นอน ดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นที่มาร่วมงานกับฉันต่างก็มีชื่อเสียง อย่าง Yohji Yamamoto และ Rei Kawakubo จาก Comme des Garçons ไอเดียของพวกเขาคือการปฏิวัติในยุค 80 และถ่ายทอดออกมาได้อย่างลึกซึ้ง ฉันรู้สึกเข้าถึงและเป็นส่วนหนึ่งของพวกเขา ทั้งในด้านอารมณ์ความรู้สึกในทุกสิ่งที่พวกเขาสัมผัส
Q19. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการมาถึงของโซเชียลมีเดียส่งผลให้แฟชั่นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะในส่วนของข้อดีและข้อเสีย
ทุกวันนี้เรามีทั้งอีคอมเมิร์ซ บล็อกเกอร์ อินสตาแกรม และอีกมากมาย โซเชียลมีเดียถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่น แม้จะมีกฎระเบียบแตกต่างจากในอดีต แต่แฟชั่นก็สามารถกลับมามีที่ยืนบนโลกออนไลน์ได้ แต่ฉันรู้สึกว่าควรจะต้องมีการถกประเด็นเชิงวิพากษ์ทางออนไลน์อย่างจริงจังมากกว่านี้ เพื่อให้เกิดความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างลุคฉูดฉาดกับดีไซน์ที่ช่วยปรับปรุงภาพลักษณ์ความเป็นมนุษย์ได้อย่างแท้จริง
Q20. คุณหวังว่าวัสดุชนิดใดที่จะยังคงอยู่ในโลกอนาคต
วัสดุธรรมชาติ แล้วก็วัสดุไฮบริดที่ดีต่อธรรมชาติและโลกอันล้ำค่าของเรา
Q21. คุณคิดว่าเสื้อผ้าควรมีบทบาทอย่างไรในการสร้างสรรค์วันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งขึ้น
เสื้อผ้าควรจะต้องมีความทนทานและอยู่ได้ยาวนาน รวมถึงต้องมอบพลังและความมั่นใจแก่ผู้สวมใส่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความเป็นจริงบนโลกใบนี้