Earthy
Tonesof Georgia O’Keeffe

นิวเม็กซิโกคือที่มาของแรงบันดาลใจของสีเอิร์ธโทนที่สื่อถึง "ความเบาสบาย" ซึ่งเป็นธีมของคอลเลคชันประจำซีซันนี้
มาทำความรู้จักกับชีวิตของศิลปิน "จอร์เจีย โอคีฟ" ซึ่งเป็นคนในพื้นที่มายาวนานและหลงรักพื้นที่ทะเลทรายหินแห่งนี้

Photo by Tony Vaccaro / Abiquiú, New Mexico, 1960 / Archive Photos / Getty Images

Georgia O’Keeffe

Painter, Artist

จอร์เจีย โอคีฟ เกิดในปี 1887 และได้รับการขนานนามว่าเป็นแม่ของศิลปะโมเดิร์นสไตล์อเมริกัน เธอได้เปิดตัวผลงานชิ้นแรกในปี 1917 ในนิทรรศการเดี่ยวของเธอที่เมืองนิวยอร์ก ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ที่เธอได้สร้างสรรค์ขึ้นมา เช่น ภาพโคลสอัพของดอกไม้นั้นได้รับเสียงยกย่องอย่างล้นหลาม หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตลงในปี 1946 เธอได้ย้ายไปที่นิวเม็กซิโก ซึ่งเธอได้อาศัยและทำงานอยู่ในที่แห่งนั้นจนกระทั่งเสียชีวิตลงด้วยวัย 98 ปี

ฉันวาดในสิ่งที่ฉันเห็น

จอร์เจีย โอคีฟ คือศิลปินหญิงที่หาตัวจับยากคนหนึ่งในแวดวงศิลปะของสหรัฐอเมริกาในศตวรรษที่ 20 ผู้ยังมีผลงานโดดเด่นจนถึงทุกวันนี้ ด้วยผลงานที่แสดงภาพดอกไม้ ตึกระฟ้า และกะโหลกของสัตว์ที่วางอยู่บนพื้นโลกแห้งแล้ง รวมถึงเรื่องราวชีวิตอันน่าทึ่ง และสีหน้าที่แสดงถึงอิสรภาพและความสันโดษของเธอ จอร์เจียเป็นไอคอนด้านศิลปะมายาวนาน ทว่าเธอใช้ชีวิตตามเงื่อนไขของตัวเองโดยปราศจากการถูกแปะป้ายอย่างที่หลายคนคาดหวังจากศิลปิน

จอร์เจียเกิดเมื่อปี 1887 ที่รัฐวิสคอนซินในครอบครัวเกษตรกรรม เธอชอบวาดภาพตั้งแต่อายุยังน้อย หลังจากเรียนที่ Art Student League ในนิวยอร์ก เธอก็ทำงานเป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนมัธยมของรัฐเท็กซัสและต่อมาที่เซาท์แคโรไลนา เธออุทิศตนให้กับงานศิลปะมาโดยตลอด ซึ่งนี่เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ศิลปะสมัยใหม่ของศิลปินชาวยุโรปอย่าง Matisse, Picasso และ Braque เดินทางมาถึงสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรก จอร์เจียในวัยเยาว์รู้สึกทึ่งกับการแสดงออกของศิลปะล้ำยุคนี้อย่างมาก

เส้นทางที่เธอก้าวไปสู่จุดสูงสุดของงานศิลปะนั้นเรียกได้ว่าเป็นตำนาน ในปี 1915 จอร์เจียได้ส่งภาพร่างสีชาร์โคลแนวแอบสแตรกต์ไปให้เพื่อนคนหนึ่งในนิวยอร์ก ซึ่งเขาได้นำภาพนั้นไปให้ "อัลเฟรด สติกลิตซ์" ช่างภาพชื่อดังระดับโลก ในฐานะผู้ทรงอิทธิพลในโลกศิลปะ อัลเฟรดถึงกับตกตะลึงมากจนโพล่งออกมาว่า "ในที่สุดก็ได้เห็นผลงานจากศิลปินผู้หญิง!" อัลเฟรดนำผลงานเหล่านี้ไปจัดแสดงที่แกลเลอรี "291" ของเขาโดยไม่ได้ขออนุญาตจากจอร์เจีย ซึ่งผลงานนั้นกลายเป็นผลงานเปิดตัวของเธอในฐานะศิลปิน หลังจากนั้น จอร์เจียได้พัฒนาความสัมพันธ์กับอัลเฟรดซึ่งขณะนั้นแต่งงานแล้วและอายุมากกว่าถึงเธอยี่สิบสามปี หลังจากมีการส่งจดหมายหากันหลายฉบับ ความรักของทั้งคู่ก็เบ่งบาน ทั้งสองแต่งงานกันในปี 1924 เมื่อจอร์เจียอายุได้สามสิบเจ็ดปี

ด้วยแรงสนับสนุนจากอัลเฟรด ไม่นานนักจอร์เจียก็มีชื่อเสียงในฐานะศิลปินอันดับต้นๆ ของศิลปะสมัยใหม่ ผลงานที่สร้างขึ้นในช่วงนี้คือภาพวาดสีน้ำมันรูปดอกไม้สุดคลาสสิกของเธอ ภาพวาดหล่านี้เป็นรูปกลีบดอกไม้ที่วาดออกมาในสเกลที่หาได้ยากมากๆ ในภาพนิ่ง นอกจากจะมีความแอบสแตรกต์ในแบบของตัวเองแล้ว ยังงดงามและเต็มไปด้วยชีวิตชีวาอีกด้วย

Ghost Ranch Home, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

บ้านของจอร์เจียในพื้นที่ Ghost Ranch ของรัฐนิวเม็กซิโก ซื้อในปี 1940 เป็นสไตล์ดั้งเดิมและมีพื้นที่ 184 ตารางเมตร

Georgia O’Keeffe: To See Takes Time
Edited by Samantha Friedman, 2023 The Museum of Modern Art, New York

แค็ตตาล็อกจัดพิมพ์โดย MoMA สำหรับนิทรรศการจัดแสดงภาพของจอร์เจียในปี 2023 ผลงานประมาณ 200 ชิ้นจาก 2,000 ชิ้นที่เธอทิ้งไว้เบื้องหลัง โดยเน้นที่ยุค 1910 และ 1920 ที่ส่วนใหญ่เป็นภาพดอกพุทธรักษาสีแดงเหมือนที่แสดงไว้ที่นี่

Georgia O'Keeffe. No.12 Special, 1916. Charcoal on paper, 24 x 18 7/8 inches. Museum of Modern Art (MoMA). The Museum of Modern Art, New York. Gift of The Georgia O'Keeffe Foundation [1995] (200.95)

ภาพวาดจากสีชาร์โคลในยุคแรกของจอร์เจีย จัดแสดงที่แกลเลอรี "291" ของช่างภาพ "อัลเฟรด สติกลิตซ์"

Alfred Stieglitz. Georgia O'Keeffe, 1918-1919. Gelatin silver print, 8 11/16 x 7 7/16 inches. Museum Purchase. [2014.3.56]

ภาพเหมือนของจอร์เจียเมื่ออายุสามสิบเอ็ดถ่ายเมื่อปี 1918 โดยช่างภาพ "อัลเฟรด สติกลิตซ์" ชายที่เธอแต่งงานด้วยในภายหลัง

Georgia O'Keeffe. Flower Abstraction, 1924. Oil on canvas, 48 x 30 inches. Whitney Museum of American Art. Whitney Museum of American Art, New York; 50th Anniversary Gift of Sandra Payson [1985] (85.47)

ในบรรดาผลงานแอบสแตรกต์ภาพดอกไม้แบบซูมเข้าของจอร์เจีย นี่เป็นผลงานในช่วงแรกจากปี 1924 ชิ้นนี้โดดเด่นออกมาด้วยการไล่สีหลายชั้นที่งดงามมาก

"ไม่มีใครเห็นดอกไม้ มันเล็กจริงๆ เราไม่มีเวลามาดู...ฉันจึงพูดกับตัวเองว่า ฉันจะวาดในสิ่งที่ฉันเห็น ว่าดอกไม้นั้นมีความหมายกับฉันอย่างไร แต่ฉันจะวาดให้ใหญ่ จนพวกเขาจะต้องประหลาดใจถึงขั้นสละเวลามาดูมัน" (จากแค็ตตาล็อก "About Myself" ปี 1939)

แม้จอร์เจียจะได้รับการยกย่องและมีชื่อเสียง แต่เธอมักจะรู้สึกเป็นทุกข์มากขึ้นเรื่อยๆ เหนือสิ่งอื่นใด เธอเบื่อหน่ายกับการที่คนตีค่าผลงานของเธอว่าเป็น 'ผู้หญิง' หรือ 'เย้ายวน' ในช่วงเวลาที่โลกศิลปะถูกครอบงำด้วยเสียงของผู้ชาย ตั้งแต่ระดับมหาวิทยาลัย พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงนักวิจารณ์ จอร์เจียเหมือนเป็นคนชายขอบ ยิ่งเธอมีชื่อเสียงมากขึ้น เธอก็โหยหาที่ที่จะทำให้เธอทำงานได้อย่างสงบสุข แต่อับเฟรดเป็นคนชอบเข้าสังคมและชอบเชิญผู้คนมาที่บ้านเสมอ อีกทั้งเขาไม่อายที่จะแสดงออกว่าสนใจผู้หญิงคนอื่น ในปี 1929 หลังจากเบื่อหน่ายกับชีวิตแบบนี้ เธอและเพื่อนหญิงของเธอก็ขึ้นรถไฟไอน้ำที่มุ่งหน้าไปยังนิวเม็กซิโกทางตะวันตกเฉียงใต้

รัฐที่เต็มไปด้วยพื้นที่รกร้างที่มีพืชพรรณกระจัดกระจายและกองหินที่ขรุขระเต็มไปหมด แต่จอร์เจียกลับประทับใจกับสีและพื้นผิวของทะเลทรายสูง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากชายฝั่งตะวันออกที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ ในปี 1934 เธอย้ายไปที่ Ghost Ranch ทางเหนือของ Abiquiú ซึ่งเธอพบบ้านหลังเล็กๆ ที่สร้างจากผนังดิน มันอยู่ห่างไกลที่ไม่มีโทรศัพท์หรือน้ำ สถานที่ซื้ออาหารที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างออกไปกว่า 40 กม. ขณะที่ยืนอยู่ในสนามหญ้า เธอมองเห็น Cerro Pedernal อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นเมซา (ที่ราบสูงรูปโต๊ะ) ที่มีลักษณะเฉพาะของที่ราบสูงในแถบนั้น ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่อยู่ใต้น้ำเมื่อหลายล้านปีก่อน เชิงเขาเหล่านี้ประกอบด้วยชั้นตะกอนนับไม่ถ้วน ทำให้เกิดสีสันที่ซับซ้อน "สีเอิร์ธโทนทั้งหมดในจานสีของจิตรกรนั้นกระจายอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ตั้งแต่สีเหลืองไข่ไก่ไปจนถึงเหลืองอมน้ำตาล ส้ม แดง และม่วง แม้กระทั่งสีเขียวเอิร์ธกรีนอ่อนๆ" จอร์เจียเขียนด้วยน้ำเสียงแห่งอารมณ์ที่พรั่งพรูออกมา และเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า "ประเทศที่สวยงามที่สุดของเรา"*

Georgia O'Keeffe. In the Patio VIII, 1950. Oil on canvas, 26 x 20 inches. Georgia O'Keeffe Museum. Gift of The Burnett Foundation and The Georgia O'Keeffe Foundation. © Georgia O'Keeffe Museum. [1997.5.8]
Photo: Tim Nighswander/IMAGING4ART

Abiquiú Courtyard, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

Abiquiú Studio, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

1. ภาพวาดแนวแอบสแตรกต์ที่ทำให้นึกถึงประตูสวนของบ้าน Abiquiú 2. เขาสัตว์ตั้งโชว์อยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นแม่ลายสำคัญ 3. คอลเลกชันหินบนขอบหน้าต่าง

Todd Webb. Georgia Making Stew, Ghost Ranch, 1962. Gelatin silver print, 6 3/8 x 5 inches. Georgia O'Keeffe Museum. Gift of The Georgia O'Keeffe Foundation. © Todd Webb Archive. [2006.6.985]

Ghost Ranch Breakfast Nook, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

4. จอร์เจียชื่นชอบในการทำอาหาร 5. "มุมอาหารเช้า" ใน Ghost Ranch ผนังสองด้านเป็นหน้าต่างกระจกบานใหญ่ จอร์เจียนั่งบนม้านั่งเพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามขณะทานอาหารเช้า เธอชื่นชอบกาน้ำชาจากประเทศจีนและญี่ปุ่นเป็นพิเศษ

Ghost Ranch Studio, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

Ghost Ranch Studio, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

Abiquiú Closet, 2019. Krysta Jabczenski. © Georgia O'Keeffe Museum.

6. พู่กันในสตูดิโอ 7. เก้าอี้เลานจ์สีแดงจาก Herman Miller ออกแบบโดย "ชาร์ลส์และเรย์ อีมส์" คนรู้จักของเธอ 8. ตู้เสื้อผ้าในบ้าน Abiquiú มีเสื้อผ้าสีดำเช่นเสื้อคลุมนี้เต็มไปหมด

Georgia O'Keeffe. Lavender Hill with Green, 1952. Oil on canvas, 12 x 27 3/16 inches. Georgia O'Keeffe Museum. Gift of The Burnett Foundation and The Georgia O'Keeffe Foundation. © Georgia O'Keeffe Museum. [1997.5.10] Photo: Tim Nighswander/IMAGING4ART

เนินเขาหินทรายหลากสีสันชวนให้นึกถึงภูมิทัศน์ของนิวเม็กซิโก จอร์เจียวาดภาพเหล่านี้ซ้ำๆ ตามเวลาและฤดูกาลที่เปลี่ยนไป

มีนักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะเดินทางไปที่ Ghost Ranch เมื่อเธอได้สัมผัสถึงความเงียบสงบของทะเลทรายที่ช่วยปลอบประโลมใจเธอ เธอก็เดินทางไปที่นั่นทุกปีเพื่อวาดภาพ ภาพโครงกระดูกฟอกขาวอยู่ใต้ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ล้อมรอบด้วยเนินเขา เมื่ออัลเฟรดเสียชีวิตในปี 1946 เธอก็ย้ายไปอยู่ที่นั่นอย่างถาวร จอร์เจียปรับปรุงบ้านพร้อมสวนในหมู่บ้าน Abiquiú ที่อยู่ใกล้เคียง และใช้ที่นี่เป็นบ้านของเธอในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิ และไปที่ Ghost Ranch ในฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง เธอมีผู้ช่วยที่คอยดูแลเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวันของเธอ ทำให้เธอมีเวลาวาดภาพได้เต็มที่ ในเวลาว่าง เธอชอบทำอาหาร ฟังเพลง หรือดูแลสวน แม้ว่าที่พักของเธออาจจะดูเรียบง่าย แต่เธอเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าของเธออย่างพิถีพิถัน

ตลอดช่วงเวลาที่เธออยู่ในนิวเม็กซิโก จอร์เจียให้ความสนใจในวัฒนธรรมของชาว Pueblo ที่อาศัยอยู่ในดินแดนนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ พวกเขาสร้างบ้านและทำเครื่องมือต่างๆ ด้วยดินตะกอนและดินเหนียว ล่าสัตว์ขณะปลูกธัญพืชและข้าวโพด พวกเขาใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีวิถีชีวิตที่เต็มไปด้วยประเพณีทางจิตวิญญาณ โคดี ฮาร์ตเลย์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ Georgia O'Keeffe กล่าวว่า

"เหตุผลหนึ่งที่ทำให้จอร์เจียหลงใหลในวัฒนธรรมพื้นเมืองก็คือ เธอพยายามค้นหาสิ่งที่เป็นของแท้หรือเป็นสากล ค้นหาทางเลือกอื่นที่นอกเหนือไปจากลัทธิทุนนิยมและลัทธิก้าวหน้า และการแสดงออกถึงประสบการณ์ของมนุษย์อย่างจริงแท้และจริงใจ ซึ่งงานของจอร์เจียไม่เกี่ยวข้องกับเวลาหรือการเล่าเรื่อง มันไม่ได้ให้ความรู้สึกซาบซึ้ง แต่เป็นเพียงภาพของสิ่งสวยงามที่มีอยู่จริงในโลกนี้ ในโลกของศิลปะยุคนั้นไม่มีใครเหมือนเธอ"

ในช่วงทศวรรษ 1970 จอร์เจียป่วยเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งค่อยๆ แย่ลงจนเหลือเพียงการมองเห็นรอบข้างเท่านั้น ซึ่งการที่ศิลปินสูญเสียการมองเห็นนั้นยากเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากทีมงานของเธอ จอร์เจียยังคงวาดภาพและหันมาทำศิลปะจากดินเหนียวแทนการใช้ตามอง เธออาศัยอยู่บนดินแดนที่ปลอบประโลมใจเธอจนกระทั่งเสียชีวิตเมื่ออายุเก้าสิบแปดปี เมื่อศิลปินผู้นี้ ซึ่งจริงใจต่ออารมณ์ของเธอ มองดูดอกไม้ที่ "ไม่มีใครมอง" เธอเห็นอะไร บางทีคำตอบอาจจะอยู่ที่ดินแดนแห่งนิวเม็กซิโก ที่ที่เธอมองเห็นในสิ่งที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อนหรือไม่เคยมีใครเห็นอีกเลย

*Henry McBride. “Sees Mountains Red.” Reprinted in Georgia O'Keeffe and Her Houses by Barbara Buhler Lynes and Agapita Lopez. Harry N. Abrams, 2012.

Georgia O'Keeffe. Above the Clouds I, 1962-1963. Oil on canvas, 36 1/8 x 48 1/4 inches. Georgia O'Keeffe Museum. Gift of The Burnett Foundation and The Georgia O'Keeffe Foundation. © Georgia O'Keeffe Museum. [1997.5.14] Photo: Tim Nighswander/IMAGING4ART

ภาพวาดก้อนเมฆในศตวรรษ 1960 โดยจอร์เจียในวัยเจ็ดสิบปี ว่ากันว่าได้รับแรงบันดาลใจจากทิวทัศน์ที่เห็นจากเครื่องบินขณะเดินทางรอบโลก

Todd Webb. Georgia O'Keeffe and Chows in Abiquiu Garden, ca. 1962. Chromogenic print, 5 x 3 1/2 inches. Georgia O'Keeffe Museum. Gift of The Georgia O'Keeffe Foundation. © Todd Webb Archive. [2006.6.1035]

แม้ว่าจอร์เจียจะสูญเสียการมองเห็นเมื่ออายุมากขึ้น แต่เธอก็หันมาทำงานปั้นเซรามิก โดยได้รับความช่วยเหลือและกำลังใจจากช่างปั้นนามว่า ฌอน แฮมิลตัน ซึ่งผลงานหลายชิ้นจัดแสดงที่บ้าน Abiquiú

1887: เกิดที่ฟาร์มในเมือง Sun Prairie รัฐวิสคอนซิน
1916: เรียนกับ Arthur Dow ที่วิทยาลัยครู Columbia University Teachers College โดยเรียนรู้หลักการของศิลปะญี่ปุ่น
1917: จัดแสดงเดี่ยวครั้งแรกที่แกลเลอรี "291" โดยช่างภาพ "อัลเฟรด สติกลิตซ์" ในนิวยอร์ก
1924: สามเดือนหลังจากที่อัลเฟรดหย่าร้าง ทั้งคู่ก็แต่งงานกัน

1946: อัลเฟรดเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง ซึ่งในปีต่อมา จอร์เจียย้ายไปนิวเม็กซิโกถาวร
1970: เปิดนิทรรศการรวบรวมผลงานเก่าๆ ของศิลปิน ที่ Whitney Museum of American Art ในนิวยอร์ก
1986: เสียชีวิตเมื่ออายุเก้าสิบแปดในซานตาเฟ่ ในปีต่อมา National Gallery of Art ในวอชิงตันดีซีจัดแสดงนิทรรศการรวมผลงานย้อนหลังของศิลปินครั้งใหญ่

Text by Kosuke Ide
Coordination by Chinami Inaishi

English
ไทย

แชร์หน้านี้

วันวางจำหน่ายของสินค้าแต่ละชนิดอาจแตกต่างกันไปตามสินค้า
ราคาที่ระบุไว้ทั้งหมดเป็นราคาปัจจุบัน ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2024 โดยรวมภาษีแล้ว และอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้

EarthyTonesof Georgia O’Keeffe

Georgia O’Keeffe

ฉันวาดในสิ่งที่ฉันเห็น

Earthy
Tonesof Georgia O’Keeffe