UNIQLO
and Our Town
vol.08Italy [Rome]
ยูนิโคล่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และในครั้งนี้ เราจะพามาเยี่ยมชมกรุงโรม
ซึ่งถือเป็นบ้านหลังที่สองของยูนิโคล่ในประเทศอิตาลี ตามหลังร้านสาขาแห่งแรกที่เปิดให้บริการไปในเมืองมิลาน เราจะพามาดูเทรนด์ล่าสุดในเมืองที่รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์กัน

เสน่ห์ของเมืองนี้ยังคงยืนหยัดเหนือกาลเวลาไม่เปลี่ยน เหมือนที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่อง Roman Holidayที่ถ่ายทำเมื่อ 7 ทศวรรษก่อน ตรงข้ามกับร้านสาขา UNIQLO Rome Via del Corso คือ Piazza Colonna จากตรงนั้นไม่ไกลนักเป็นสถานที่ตั้งของ Pantheon ซึ่งเป็นวิหารโรมันโบราณและสัญลักษณ์ของเมืองแห่งนี้ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่างน้ำพุเทรวีด้วย
การเดินถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการซึมซับประวัติศาสตร์อันยาวนานของโรม แต่ภายในอาคารที่ดูคลาสสิกเหล่านี้มีอาหารสมัยใหม่ซ่อนเอาไว้ อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำไทเบอร์ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองก็มีดาวน์ทาวน์เก่าๆ เหมาะสำหรับการตระเวนหาของกินอร่อยๆ
UNIQLO Rome

ร้านสาขาแห่งใหม่เปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2024 ตรงหัวมุมของศูนย์การค้า Galleria Alberto Sordi ที่สร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูโวในปี 1922 บันไดวนที่เชื่อมต่อชั้นใต้ดินกับร้านค้าบนดินทั้งสองชั้นมีพื้นที่รวมมากถึง 1,300 ตารางเมตร รวมถึงลานเปิดกว้างที่มีมอเตอร์ไซค์เวสป้าและสัญลักษณ์ของกรุงโรมเรียงรายอยู่มากมาย ห้องสมุดชั้นล่างจะมีมุมอ่านหนังสือที่ทาง Star Shop ร้านหนังสือในกรุงโรมที่เชี่ยวชาญเรื่องวัฒนธรรมมังงะของญี่ปุ่นเป็นผู้จัดหามา ส่วน RE.UNIQLO STUDIO ผู้ให้บริการซ่อมแซมและปักลายนั้นดำเนินการโดย Le Tre Sarte สตูดิโอตัดเสื้อผ้าท้องถิ่นในเมืองหลวงแห่งนี้
Via del Corso, 197, 00187 Roma

column 1The River Tiber
and Isola Tiberina
The River Tiber
and Tiber Island

Isola Tiberina, Roma
จุดเด่นของเมืองที่ดีอยู่ที่แม่น้ำ แต่ก็ไม่ใช่ทุกเมืองที่จะมีเกาะกลางแม่น้ำ ในแม่น้ำไทเบอร์ที่ไหลผ่านกรุงโรมตั้งแต่เหนือจรดใต้มี Isola Tiberina หรือเกาะไทเบอร์ตั้งอยู่ ซึ่งเชื่อมต่อด้วยสะพานที่สวยงามทั้งสองด้าน ทิวทัศน์สวยงามไม่ว่าจะมองจากทิศทางไหน ในช่วงฤดูร้อนจะมีแผงลอยขายอาหารมาตั้งกันเรียงราย จนเป็นเหมือนแหล่งพักผ่อนหย่อนใจที่ชาวโรมสามารถมาออกมาท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องออกนอกเมือง เมืองแห่งนี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมายเพื่อให้กลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถทำงานและเล่นสนุกได้ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ส่งผลดีต่อนักท่องเที่ยวด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาถึง ถนนที่ทอดยาวตามริมแม่น้ำซึ่งไม่อนุญาตให้รถยนต์วิ่งผ่านจะเต็มไปด้วยจักรยานและเหล่านักวิ่ง เพียงแค่จินตนาการถึงสถานที่แห่งนี้ก็ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงสายลมเย็นพัดผ่าน ส่วนอาคารหลังใหญ่ที่อยู่ใจกลางเกาะคือโรงพยาบาลที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 และยังคงเปิดให้บริการอยู่ในปัจจุบัน

Forno Conti & Co.Bakery, Cafe

ร้านเบเกอรี่ในกรุงโรมแห่งนี้มีผู้คนมาต่อแถวรอกันยาวเหยียดตั้งแต่ร้านเปิดตอน 8:30 น. มี Contis คนทำขนมปังในรุ่นที่สี่เป็นผู้ดูแลธุรกิจที่ดำเนินกิจการต่อเนื่องยาวนานนับศตวรรษ เมนูหลักประจำร้านได้แก่ แป็งโอชอกอลา บาแก็ต และขนมปังไรย์ ไปจนถึงขนมอบสไตล์อิตาลี ฝรั่งเศส และนอร์ดิก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือเมอแรงก์ (ราคา 5 ยูโร) ทานคู่กับกาแฟเอสเปรสโซ่ สำหรับมื้อเที่ยงก็จะมีแซนด์วิชและบรูเชตต้าที่ทำจากผักตามฤดูกาล ซึ่งคุณสามารถนำไปนั่งทานในร้านที่ดูทันสมัยหรือที่โต๊ะบริเวณระเบียงด้านนอกได้
Via Giusti, 18, 00185 Roma

OtalegGelateria

เลือกได้มากกว่า 30 รสชาติ! นอกจากเจลาโตรสชาติคลาสสิกอย่างช็อกโกแล็ตและผลไม้ตามฤดูกาลอย่างมะม่วงและราสป์เบอร์รีแล้ว (สองรสชาติราคา 3 ยูโร) ยังมีตัวเลือกใหม่ๆ ที่น่าลิ้มลองอย่างชีสหรือพริกที่มีความเผ็ดร้อนอยู่ในตัว ร้านค้าแห่งนี้ร่วมมือกับชาวสวนและคนทำชีสเพื่อสรรหารสชาติใหม่ๆ แน่นอนว่าต้องขอบคุณ Otaleg ที่ทำให้เรามีเจลาโตดีๆ ในกรุงโรมกันตลอดปี ผู้คนในท้องถิ่นที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารเลิศรสเป็นภาพที่พบเห็นได้ตลอดเวลาที่ด้านนอกร้านเล็กๆ ใน Trastevere แห่งนี้
Via di San Cosimato 14, 00153 Roma

L’elementare TrasteverePizzeria

ร้านพิซซ่านี้ได้ยกมาตรฐานพิซซ่าแป้งบางสไตล์โรมขึ้นไปอีกระดับ สปาเกตตีอัลลาปุตตาเนสกา พาสต้าสไตล์คลาสสิกของอิตาลีที่ใส่มะกอกดองเค็ม ปลาแอนโชวี และซอสมะเขือเทศ พลิกโฉมเป็นอาหารจานใหม่ในชื่อ "พิซซ่าปุตตาเนสกา" (ราคา 13 ยูโร) ส่วนสุปปลี (Supplì) ซึ่งเป็นข้าวปั้นทอดสไตล์โรมของที่นี่ก็เปลี่ยนไปใช้เป็นพาสต้าแทน จนกลายเป็นจานเด็ดที่มีชื่อว่า "Suppli Ajo e Ojo" (ราคา 4 ยูโร) ที่สามารถหยิบรับประทานได้ด้วยมือ จับคู่กับคราฟต์เบียร์สูตรเด็ดที่มีให้เลือกถึง 16 แบบเพื่อเพลิดเพลินไปกับรสชาติของกรุงโรมได้อย่างเต็มอิ่ม
Via Benedetta 23, 00153 Roma

Spazio SetteBook Shop

ร้านหนังสือสไตล์โมเดิร์นนี้ตั้งอยู่ในคฤหาสน์ที่สร้างขึ้นเมื่อทศวรรษที่ 1600 และใกล้กับ Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ของกรุงโรม ร้านได้รับการปรับปรุงใหม่และอัดแน่นไปด้วยหนังสือศิลปะ คู่มือนำเที่ยวเมือง ไปจนถึงนิยายหลากหลายเรื่อง พื้นที่ภายในของอาคารสูงแห่งนี้ตกแต่งด้วยภาพปูนเปียก และยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำหรับนักเขียนหนังสือต่างๆ นอกจากนี้ยังมีมุมคาเฟ่ให้ได้พักผ่อนจากการเดินสำรวจเมืองด้วย แถมยังมีแมวเหมียวที่แสนจะเป็นมิตรที่หากใครไม่ได้แวะเวียนไปคงน่าเสียดาย
Via dei Barbieri 7, Sant’eustachio, Largo Argentina, 00186 Roma

VuotopienoGuest House

ตึกอพาร์ทเมนต์ทอดตัวยาวเหยียดนี้อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย อย่างเช่น Piazza di Spagna และเมืองวาติกัน พื้นที่ออกแบบโดยสถาปนิกท้องถิ่นนี้ยังเป็นแกลเลอรี ประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โบราณสไตล์ทัสคานีราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารตกแต่งภายใน ภายในมีห้องนอนพร้อมภาพวาดบนหลังคาที่ดูสวยสดงดงาม อพาร์ทเมนต์ทุกหลังมีครัวอยู่ด้านใน แขกสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่ 3 ถึง 10 วัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 230-250 ยูโร แต่ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามซีซัน จึงควรตรวจสอบล่วงหน้าก่อนเข้าพัก
Via Pietro Cossa, 28, 00193 Roma

RetrobottegaRistorante

Retrobottega คือร้านอาหารร่วมสมัยระดับแนวหน้าของกรุงโรม ที่นี่ใช้แต่วัตถุดิบสดใหม่ซึ่งจะมีเมนูชุด (อาหาร 5 จาน ราคา 70 ยูโร) สลับสับเปลี่ยนไม่ซ้ำในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังมีอาหารจานเดียวจำหน่าย อย่างเช่น ครีมใบเนทเทิลและผักโขมกับถั่วและเชอร์รี่รมควัน (ในภาพ) เชฟจะเลือกใช้สมุนไพรและผักที่เก็บได้จากภูเขานอกเขตเมือง ร้านอาหารแห่งนี้ยังมีโต๊ะขนาดใหญ่เพื่อให้แขกที่มารับประทานอาหารพูดคุยกันได้อย่างสะดวก และยังมีไวน์ธรรมชาติให้เลือกดื่มมากมายด้วย
Via d'Ascanio, 26A, 00186 Roma

Ruma Bottega & Cucina AgricolaRistorante

ร้านอาหารที่เน้นชีสนมควายแห่งนี้เปิดให้บริการมาเป็นเวลาสองปีโดยครอบครัวที่เลี้ยงควายและทำชีสในทัสคานีมาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นชีสมอสซาเรลลา ชีสบ่ม โยเกิร์ต หรือเจลาโตก็ต่างทำมาจากนมควายทั้งนั้น ซึ่งสามารถซื้อปลีกหรือเลือกที่จะเพลิดเพลินกับมื้ออาหารเที่ยงหรือเย็นก็ได้ ภายในตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มีเก้าอี้หนังควายและโต๊ะไม้ที่เจ้าของซึ่งเป็นสถาปนิกเป็นผู้ออกแบบเองด้วย ในภาพเป็นกรอสตีนีสามชนิดที่ใส่ชีสกับผักตามฤดูกาล (ราคา 9 ยูโร)
Via Di Parione 13, 00186 Roma

column 2Taking Rome Home!
Taking Italy Home!
-
1. จานหินอ่อน
ผลิตขึ้นโดย La Bottega del Marmoraro ซึ่งเป็นช่างแกะสลักหินอ่อนที่อยู่ใกล้ๆ กับ Piazza di Spagna โดยคุณสามารถเลือกแบบที่เป็นสุภาษิตภาษาโรม หรือเลือกประโยคแบบกำหนดเองก็ได้ ซึ่งจะใช้เวลาผลิตประมาณ 2-3 วัน ทั้งสองแบบ
ราคา15 ยูโรที่อยู่: Margutta, 53B
-
2. ช็อกโกแลตครีม
ร้านทำช็อกโกแลต Said dal 1923 ที่มีอายุยาวนานนับศตวรรษแห่งนี้ ได้สร้างโกโก้สเปรดรสหวานผสมเฮเซลนัทขึ้นมาด้วยสูตรเฉพาะของตัวเองที่ชาวโรมมักจะนำมาทาหน้าขนมปัง (ราคา 5.7 ยูโร) ที่อยู่: Via Tiburtina, 135
ราคา 5.7 ยูโรที่อยู่: Tiburtina, 135
-
3. ลูกแก้วหิมะ
คว้าจุดหมายปลายทางชื่อดังของโรมไว้ในมือคุณ ลูกแก้วหิมะมีให้เลือกทั้งแบบบรรจุโคลอสเซียมหรือน้ำพุเทรวีในโดมแก้ว มีจำหน่ายที่ร้านขายของใกล้กับศูนย์ประวัติศาสตร์
ราคา 5 ยูโร

*ราคาและข้อมูลล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายน 2024
- Photography by Andrea Di Lorenzo
- Coordination by Mika Hisatani
- Illustrations by Adrian Hogan
- Text by UNIQLO