Detective Conan (เวอร์ชันภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Case Closed ) โด่งดังทั่วทั้งวงการวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นมาตั้งแต่ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1994 เป็นซีรีส์มังงะที่ออกมาแล้วถึง 102 เล่ม แล้วยังถูกดัดแปลงเป็นอนิเมะสุดฮิตฉายทางทีวี และสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมะภาคแยกที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามอีกหลายต่อหลายเรื่อง โดยฉบับมังงะมียอดขายทั่วโลกสูงกว่า 270 ล้านเล่ม รวมถึงฉบับแปลที่มีวางจำหน่ายใน 25 ประเทศและภูมิภาคอื่นๆ และในปีนี้ Conan จะกลับมาพบกับคุณบน UT อีกครั้ง Gosho Aoyama ผู้แต่งมังงะเรื่องนี้ที่นอกจากจะร่าเริงใจดีแล้วยังมีอารมณ์ขันอีกด้วย ได้มาพูดคุยกับเราเกี่ยวกับชีวิตวัยเด็ก จุดเริ่มต้นของ Detective Conan และภาพยนตร์ที่เข้าฉาย
*ข้อมูลในบทความนี้เป็นข้อมูลจากการสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2023

Aoyama เอนกายบนเก้าอี้ในที่ทำงานของเขา—เก้าอี้ตัวเดียวกับที่ใช้เขียนเรื่องราวการผจญภัยของโคนันและกลุ่มเพื่อนๆ
ชีวิตสมัยเด็กของคุณเป็นอย่างไร
ผมเป็นเด็กแปลกๆ ผมชอบดูหนังแล้วนั่งจินตนาการไปว่าถ้าผมเป็นตัวละครจะทำอะไรให้ต่างจากในหนัง ทุกวันนี้ก็ยังชอบทำแบบนั้นอยู่ เวลาดูหนัง ผมจะสุขใจมากถ้าเรื่องเป็นไปตามที่ผมคิด และจะสุขใจมากขึ้นถ้าหนังเดินเรื่องได้ดีกว่าที่ผมคิดไว้
แล้วถ้าเรื่องออกมาไม่ดีเท่าที่คิดล่ะ
ผมก็จะเอาไอเดียที่ผมคิดในหัวว่าควรทำแบบนั้นแบบนี้มาใส่ไว้ใน Detective Conan แทน!
เข้าท่ามากเลย! แล้วสมัยนั้นคุณชอบอ่านมังงะแนวไหนบ้าง
ผมอ่านหลายแนวมาก แต่นักเขียนมังงะที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญของผมคือ Mitsuru Adachi, Tetsuya Chiba และ Monkey Punch ถ้าดูสไตล์การวาดของผมจะเห็นว่าตัวละครจะดวงตากลมเหมือนลายเส้นของ Adachi จมูกแหลมเหมือนลายเส้นของ Chiba และมุมปากเชิดขึ้นเล็กน้อยเหมือนลายเส้นของ Monkey Punch พอเอาสามส่วนนี้มารวมกันก็จะกลายเป็นลายเส้นของผม ผมบอกแบบนี้กับ Kazuhiko Shimamoto (นักเขียนมังงะเจ้าของผลงานเรื่อง Aoi Hono) แต่เขาทำท่าเหมือนไม่เชื่อผม!
นี่สินะเคล็ดลับของคุณ! ฉันทราบมาว่าคุณเขียนลงหนังสือรุ่นชั้นประถมศึกษาไว้ว่าโตขึ้นอยากเป็นนักเขียนมังงะเกี่ยวกับนักสืบเอกชน แสดงว่าคุณชอบเรื่องราวสืบสวนสอบสวนมากไม่แพ้มังงะ
ใช่ครับ ผมชอบมาก ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนของ Arthur Conan Doyle, Edogawa Ranpo หรือ Maurice Leblanc หนังสือของพวกเขามีวางอยู่ในห้องสมุดแทบทุกที่ในญี่ปุ่น ผมก็น่าจะได้อ่านหนังสือแนวนี้ครั้งแรกที่ห้องสมุดของโรงเรียน เรื่องแรกที่ผมประทับใจมากๆ คือ "The Adventure of the Dancing Men" เป็นเรื่องราวของ Sherlock Holmes ที่เขียนโดย Doyle คนร้ายในเรื่องใช้ตัวอักษรรหัสลับน่าขนลุกที่ดูเหมือนมนุษย์ไม้ขีดไฟ ทำให้ผมตื่นตาตื่นใจและประทับใจมาก หลังจากนั้นผมก็ชอบเรื่องราวลึกลับสืบสวนสอบสวนมาตลอด
แล้วคุณก็ทำความฝันวัยเด็กให้เป็นจริงด้วยการเขียนเรื่อง โคนัน
ก็ไม่เชิงครับ เพราะตอนที่ผมเริ่มเป็นนักเขียนมังงะก็ลืมไปหมดแล้วว่าเขียนอะไรไว้ในหนังสือรุ่น! ผมเริ่มเขียน โคนัน เพราะบรรณาธิการของผมขอให้เขียนเรื่องแนวนักสืบ ช่วงแรกผมเหนื่อยกับมันมาก แต่การได้เขียนเรื่องนี้ก็ทำให้ผมจำได้ว่าผมเคยชอบ Sherlock Holmes ขนาดไหน

เมื่อ Shinichi Kudo (หรือ Jimmy ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) นักสืบวัยมัธยมปลายถูกจับกรอกยาพิษโดยองค์กรชุดดำลึกลับ ร่างกายของเขาหดตัวจนเหลือขนาดเท่าเด็กเล็กในขณะที่ความนึกคิดของเขายังคงเดิม เมื่อรู้ว่าผู้คนรอบตัวเขาอาจตกอยู่ในอันตรายหากองค์กรชุดดำรู้ว่าเขารอดชีวิต Kudo จึงใช้ชื่อ Conan Edogawa(โคนัน เอโดกาวะ) และใช้ชีวิตแบบนักเรียนประถมในขณะที่ไขปริศนาต่างๆ ชื่อของเขามาจาก Arthur Conan Doyle และนามสกุลจาก Edogawa Ranpo
ตอนเริ่มเขียนซีรีส์ โคนัน คุณมีไอเดียที่น่าตื่นเต้นไหมว่าจะเดินเรื่องไปแบบไหน
ไม่อยากบอกเลยว่าทีแรกผมกะว่าจะจบเรื่องเร็วๆ เพราะไม่ได้อยากเขียนเรื่องนี้เลย
จริงหรือ โคนัน เป็นซีรีส์แรกที่คุณเขียนหลังจากที่โด่งดังด้วยผลงานเรื่อง Yaiba ฉันเลยคิดว่าคุณอาจจะอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าคุณไม่ได้สร้างผลงานดังได้แค่เรื่องเดียว
ไม่เลยครับ ผมคิดว่าจะเขียนแค่สั้นๆ จะได้เริ่มเขียน Yaiba 2 สักที! ตอนเริ่มเขียน โคนัน ผมไม่ได้รู้สึกกดดันเลยว่าต้องเขียนออกมาให้ดังขนาดไหน
คุณคิดว่าอะไรเป็นแรงผลักดันให้คุณเขียน โคนัน มาได้เกือบ 30 ปีทั้งๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ในทีแรก
มีอยู่หลายครั้งโดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่ผมคิดว่า "เขียนต่อไม่ไหวแล้ว" แต่ทุกครั้งก็มีอะไรเข้ามาทำให้ผมเปลี่ยนใจ พอผมคิดว่าเขียนต่อไปไม่ไหว ละครทีวีแนวสืบสวนสอบสวนเรื่อง Furuhata Ninzaburo ก็เริ่มฉาย ทำให้ผมอยากเขียน โคนัน ไปในแนวนั้น ทุกครั้งที่ผมเริ่มรู้สึกว่าไม่เหลืออะไรให้เขียนลงใน โคนัน อีกแล้ว เขียนทุกอย่างที่ต้องการลงไปหมดแล้ว ก็จะมีเหตุการณ์บางอย่างแทรกเข้ามา อย่างเช่นมีคนมาบอกว่าจะได้ดัดแปลงมังงะเรื่องนี้เป็นอนิเมะหรือภาพยนตร์ ถือว่าผมโชคดีมากๆ
ฟังดูเหมือนว่าการคิด "อาชญากรรมที่เป็นไปไม่ได้" ออกมาแต่ละคดีจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เป็นงานที่หนักมากครับ บางครั้งผมถึงกับไปซื้ออุปกรณ์มายากลมาลองเล่นดูเผื่อจะได้ไอเดีย แต่ส่วนมากก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ฉันนึกไม่ถึงเลยนะว่าจะหาไอเดียจากอุปกรณ์มายากลได้ด้วย โคนัน เป็นมังงะสำหรับเด็กผู้ชาย แต่ฉันคิดว่าผู้ใหญ่ก็ชอบมังงะเรื่องนี้ไม่แพ้กัน คุณตั้งใจเขียนให้กลุ่มผู้อ่านที่เป็นเด็กผู้ชายโดยเฉพาะไหม
ไม่ครับ ผมไม่ได้เขียนมังงะเรื่องนี้ขึ้นสำหรับเด็กผู้ชาย เพราะถ้าผมเขียนเจาะจงให้เด็กผู้ชายอ่าน ผู้อ่านก็จะเดาทริกง่ายๆ ของผมออกหมด จริงอยู่ว่าบางคดีของผมอาจไม่ซับซ้อน แต่ส่วนมากผมจะเขียนมังงะโดยมุ่งเป้าไปที่นักอ่านวัยผู้ใหญ่ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเด็กเจอเรื่องที่อ่านไม่เข้าใจ เดี๋ยวเขาก็จะไปค้นหาคำตอบเอาเอง ตอนที่ผมอ่านเรื่อง "Dancing Men" สมัยเด็กๆ ผมก็ไม่รู้ภาษาอังกฤษ แต่ก็เปิดพจนานุกรมหาคำศัพท์เอา นั่นทำให้ผมรู้จักศัพท์ภาษาอังกฤษที่ลงท้ายด้วยตัว N หลายคำมาก เด็กๆ เฉลียวฉลาดและช่างค้นคว้า พวกเขาอ่านเรื่องเกี่ยวกับคดีที่ลึกลับซับซ้อนได้สบายแน่นอน และสำหรับนักอ่านที่เป็นผู้ใหญ่ ผมหวังว่าการอ่าน โคนัน จะชวนให้พวกกลับไปช่างคิดช่างค้นเหมือนสมัยเด็กอีกครั้ง
ในช่วงแรกคุณคิดว่าจะเขียน โคนัน แค่สั้นๆ แต่คุณก็เขียนต่อมาจนเกือบ 30 ปีแล้ว ได้คิดไว้ไหมว่าจะจบเรื่องลงเมื่อใด
ยังไม่ได้คิดเลยครับ มีแฟนมังงะคนหนึ่งบอกผมว่า "เหมือนโบสถ์ Sagrada Família เลย สร้างไม่เสร็จสักที" แต่โบสถ์นั้นก็ใกล้จะสร้างเสร็จแล้วนี่นะ
มังงะเรื่องนี้ก็อาจใกล้จบแล้วเหมือนกัน แต่การสร้างโบสถ์ Sagrada Família ก็ใช้เวลานานกว่า 100 ปี บางทีแฟนๆ อาจอยากให้เรื่องราวของ โคนัน ดำเนินต่อไปจนนานกว่าศตวรรษด้วยก็ได้ จะว่าไปเมื่อตอนที่ โคนัน เล่มที่ 100 วางจำหน่าย มีการเปิดให้แฟนๆ โหวตว่าชอบตอนไหนมากที่สุด ผลการโหวตอันดับหนึ่งคือ "Reunion with the Black Organization" UT คอลเลคชันนี้ก็มีลายจากตอนนั้นอยู่ด้วย
ผมทุ่มเทกับการเขียนตอนนั้นมาก แน่นอนว่าผมทุ่มเทให้กับทุกตอนที่เขียน แต่ผมตั้งใจกับตอนนี้เป็นพิเศษ เพราะนั่นเป็นครั้งแรกที่โคนันกับเพื่อนๆ จะเผชิญหน้ากับองค์กรชุดดำโดยตรง ผมชอบฉากที่นำมาเป็นลายเสื้อนี้มาก และหวังว่าผู้อ่านก็จะชอบด้วย ฉากนี้ปรากฎในฉบับภาพยนตร์ด้วยนะ แบบเดียวกับที่ผมวาดไว้ในมังงะต้นฉบับเลย
ฉากนั้นเป็นตอนที่โคนัน เอาแว่นตาของเขาใส่ให้กับ Ai Haibara (เวอร์ชันภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Anita Hailey) ที่กำลังถูกองค์กรชุดดำไล่ล่า
ผมชอบ Superman ตรงที่ต้องใส่แว่นตาตลอดเวลาเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริง โคนันเองก็ใส่แว่นตาเพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ในฉากนี้ โคนันบอกกับ Haibara ว่า "ถ้าใส่แว่นตาของฉัน พวกนั้นไม่มีวันรู้หรอกว่าตัวจริงของเธอคือใคร ขนาด Clark Kent ยังอยากมีแว่นตาแบบนี้เลย" ผมตั้งตารอวาดฉากนี้มานานมาก ตอนที่ได้วาดก็เลยดีใจสุดๆ ถึงกับร้องในใจว่า "ได้วาดซักที!"
คุณรู้สึกอย่างไรที่ได้วาดฉากนี้อีกครั้งให้กับ UT
ก็ดูต่างไปจากเดิมนิดหน่อย ก่อนนี้ลายเส้นจะดูกลมกว่านี้นะ คุณว่าไหม หัวก็โตขึ้นด้วย

Aoyama สร้างสรรค์ดีไซน์เสื้อยืดสุดพิเศษสำหรับคอลเลคชันนี้โดยเฉพาะ เราอดไม่ได้ที่จะขอให้เขาวาดโคนันบนเสื้อด้วยปากกาของเขาเอง! "ผมเริ่มจากวาดดวงตาของโคนันก่อน" เขากล่าว "แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้มีขั้นตอนอะไรเป็นพิเศษ"
มีเสื้อตัวไหนที่คุณถูกใจเป็นพิเศษอีกไหม
ลาย Kid the Phantom Thief ครับ! ดูเท่มาก

พูดถึงเรื่องการแต่งตัว ฉันติดภาพว่าคุณเป็นคนที่ใส่สีดำตลอด ปกติแล้วคุณเป็นคนที่ใส่ใจเป็นพิเศษเรื่องการแต่งตัวไหม
ผมแค่เลือกใส่แต่สีดำกับสีเทาน่ะ เสื้อผ้าในตู้ของผมเป็นสีดำเกือบทั้งหมดเลย สีดำใส่กับอะไรก็เข้า ถูกไหม ใส่ทับเสื้อสีแดงก็ยังเข้ากันเลย อีกอย่าง ผมอยากแต่งตัวให้ไม่สะดุดตาด้วย เพราะผมไม่อยากให้ใครจำผมได้น่ะ
งั้นคุณก็เป็นหนึ่งในองค์กรชุดดำสินะ! ภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุด Detective Conan: Black Iron Submarine จะเข้าฉายในเดือนเมษายนนี้ พอจะบอกเราได้ไหมว่ามีฉากไหนที่ควรตั้งตารอดูเป็นพิเศษ
มีอยู่ฉากหนึ่งที่ผมเปลี่ยนแปลงสตอรี่บอร์ดไปเยอะมาก ผู้กำกับแทรกฉากนั้นเข้ามาในช่วงเขียนสตอรี่บอร์ด แต่ผมบอกเขาไปว่า "ผมคิดว่าเอาแบบนี้ดีกว่านะ" เขาตอบกลับมาในทันทีแล้วปรับฉากตามจนออกมาดียิ่งกว่าเดิม ฉากนั้นเป็นฉากใต้น้ำที่มีตัวละครหลักอยู่หลายคน ผมเชื่อว่าฉากนั้นจะเป็นฉากที่เด่นที่สุดและจะทำให้คนดูอ้าปากค้างเลย

Detective Conan: Black Iron Submarine
เรื่องที่ 26 Detective Conan
การตั้งทุ่นแปซิฟิกอาคารใต้ทะเลที่สร้างขึ้นในเกาะฮะจิโจ ของโตเกียวเพื่อเชื่อมต่อกล้องวงจรปิดของตำรวจทั่วโลก ที่นั่นโคนันและกลุ่มนักสืบจิ๋วได้เผชิญหน้ากับองค์กรชุดดำ Black Iron Submarine เริ่มฉายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 14 เมษายน
นี่เป็นภาพยนตร์ Detective Conan เรื่องที่ 26 ถ้าให้คุณเลือก คุณชอบเรื่องไหนมากที่สุด
ขอตอบว่าเรื่องถัดไปแล้วกันครับ ผมได้ยินมาว่าตอนที่ Charlie Chaplin นักแสดงตลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกถูกถามว่าภาพยนตร์ที่ดีที่สุดของเขาคือเรื่องไหน เขาตอบว่า "เรื่องถัดไป" ผมขอยืมคำตอบนี้มาใช้แล้วกัน

PROFILE
Gosho Aoyama | Aoyama เกิดที่จังหวัด Tottori เริ่มเส้นทางอาชีพนักเขียนมังงะในปี 1986 หลังจากได้รับรางวัล Shogakukan Newcomer Comic Award การดำเนินเรื่องอย่างเข้มข้นของ Detective Conan (เวอร์ชันภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า Case Closed) ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1994 ในนิตยสาร Weekly Shonen Sunday (เผยแพร่โดย Shogakukan) ได้รับการรวมเล่มมาแล้วถึง 102 เล่มและมียอดขายทั่วโลกมากกว่า 270 ล้านเล่ม Aoyama ได้รับรางวัล Shogakukan Manga Award จากเรื่อง Yaiba ในปี 1993 และเรื่อง Detective Conan ในปี 2001
ฉากนี้เป็นส่วนหนึ่งจากตอนที่ชื่อว่า "Reunion with the Black Organization" ซึ่งได้รับการโหวตให้เป็นตอนที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเรื่อง Detective Conan ซึ่ง Aoyama ได้วาดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับคอลเลคชันนี้โดยเฉพาะ

ด้านหลังเสื้อได้แรงบันดาลใจจากฉากสุดฮิตตอนที่ Shinichi (หรือ Jimmy ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) แต่งตัวเป็นอัศวินแล้วจู่ๆ ก็สวมกอด Ran Mori (หรือ Rachel Moore ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) เพื่อนสมัยเด็กที่กำลังสวมบทบาทเป็นเจ้าหญิงในละครเวทีของโรงเรียน ภาพสุดพิเศษนี้มาจากมังงะต้นฉบับ
ภาพเงาของโคนันซ้อนทับกับ Shinichi (Jimmy) พร้อมดึงดูดสายตาด้วยหูกระต่ายสีแดงอันเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของโคนัน โดยพิมพ์ประโยคสุดฮิตของโคนัน—"There is always only one truth!" ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น—ไว้ใต้ภาพเงานั้น
Ai Haibara (หรือ Anita Hailey ในเวอร์ชันภาษาอังกฤษ) สมาชิกองค์กรชุดดำเป็นผู้วิจัยพัฒนาสูตรยาที่ Shinichi (Jimmy) ถูกบังคับให้กินเข้าไป หลังจากที่ได้กินยานั้นและกลายเป็นเด็ก เธอก็เริ่มร่วมมือกับ Shinichi กระเป๋าหน้าอกของเสื้อรุ่นนี้สะท้อนให้เห็นความเป็นมาของเธอในฐานะนักวิทยาศาสตร์
Shuichi Akai คือเจ้าหน้าที่ FBI และสไนเปอร์มือฉมัง เขากำลังนั่งอยู่บนคำว่า "Silver Bullet" ซึ่งเป็นวลีที่ Vermouth สมาชิกองค์กรชุดดำใช้เรียกแทน Conan และ Akai
ใบหน้าหลากหลายอารมณ์ของ Bourbon หนึ่งในสมาชิกองค์กรชุดดำ ทำให้เขาดูมีเสน่ห์เกินกว่าจะบรรยายออกมาได้ ดีไซน์นี้โดดเด่นด้วยโค้ดเนมและคำพูดของเขาตอนที่พบกับ Ai Haibara (Anita Hailey) ครั้งแรกซึ่งแฝงเสน่ห์น่าหลงใหลนั้นไว้
Kid the Phantom Thief คือคู่ปรับตลอดกาลของ Conan สิ่งของต่างๆ ที่แสดงถึงคาแรคเตอร์ของเขา เช่น หมวกทรงสูง แว่นข้างเดียว สาส์นเตือน และไพ่ กระจัดกระจายอยู่บนพื้นหลังสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของเขา
วันที่ในการวางจำหน่ายและราคาอาจแตกต่างกันไป สินค้าบางรายการอาจมีจำหน่ายเฉพาะบางร้านสาขา หรือบางประเทศ หรืออาจขายหมดแล้ว
©Gosho Aoyama/Shogakukan
©Gosho Aoyama/1996,2023 Shogakukan, YTV, TMS
© 2023 GA/DCC